ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ปาฐกถาในพิธีเปิดสภาอุตสาหกรรมฯ ครวญโดนถล่มเยอะ วอนอย่าโจมตีปมสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 - ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ย้ำขอความสามัคคี ถามกลับใจสู้หรือเปล่า เดือดสื่อคอยถามประเด็นขัดแย้ง ทำลายประเทศ

ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ถนนนางลิ้นจี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งใหม่ ภายใต้แนวคิด"Smart Office & smart Service" พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ตอนหนี่งว่า หลังจากตนได้ฟังนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานแล้ว คิดว่าถ้าลงสมัครเป็นผู้แทนตนเองก็จะเลือก วันหน้าตนอาจนั่งดูข้างล่างสลับกัน เพราะวันนี้เราต้องการคนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาประเทศ

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราต้องคิดว่าจะช่วยกันได้อย่างไร สิ่งที่อยากถ่ายทอดคือตนคิดอะไร ซึ่งตลอด 5 ปี ได้ศึกษารายละเอียด อ่านหนังสือและติดตามจากต่างประเทศ เมื่อเป็นนายกฯ ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้ตรงกับบริบทของประเทศเรา ซึ่งแต่ละประเทศมีบริบทที่ต่างกันทำอย่างไรจะหาจุดร่วมให้ได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่เป็นโลกไร้พรมแดน เป็นประชาคมโลกที่เชื่อมโยงกันทั้งหมดด้วยความเจริญเติบโตทางเทคโนโลยี ดังนั้นขณะที่กำลังเดินหน้าก็จะมีปัญหา เกิดวิกฤตและโอกาสมาตลอด ซึ่งย้ำว่าวันนี้และวันก่อนแตกต่างกัน ส่วนวันหน้าก็ต้องต่างจากวันนี้ ดังนั้นต้องคิดหาทางปฏิบัติที่เหมาะสมและเป็นไปได้ โดยเฉพาะเราเป็นรัฐบาลใหม่ที่มาจากหลายพรรคการเมือง ทั้งนี้ตนไม่ประกาศว่ารู้เก่งกว่าใคร แต่จะแสวงหาแนวทางขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้ได้ผล

พล.อ.ประยุทธ์ ยังเผยถึงการออกแถลงการณ์สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และปัญหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดว่า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และให้ความร่วมมือทุกมิติ เพราะถ้าไม่ร่วมมือกันแก้ปัญหา โจมตีกันไปมา ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ พร้อมยังยอมรับด้วยว่า การท่องเที่ยวขณะนี้ เกิดปัญหาจากโรคระบาดที่อุบัติขึ้นใหม่ เพราะเชื้อโรคก็มีการพัฒนาตนเอง เช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้น รัฐบาล ก็มีมาตรการในการรองรับป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น และประชาชนก็ควรจะต้องรักษาสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปให้ได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งสำคัญต้องทำให้ประชาชนเข้าใจ ไม่เช่นนั้น ขัดแย้งและมีปัญหาตลอด และอย่าลืมว่าช่วงนี้ที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบเป็นอย่างมาก หากไม่ร่วมมือ โจมตีกันไปมาก็ไม่เกิดอะไรทั้งสิ้น มีแต่จะถอยหลัง ดังนั้นวันนี้ขอให้ช่วยกันอธิบายและทำความเข้าใจ เพื่อให้คนเตรียมรับมือสถานการณ์ต่างๆ ไว้ด้วย นอกจากนี้เราต้องการความร่วมมือสมัครสมานสามัคคี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ตนพูดเยอะและโดนด่ามาเยอะ แต่ทุกอย่างมีกฎหมายและมาตรการต่างๆ หลายอย่างบังคับด้วยอำนาจทางกฎหมายและอำนาจบริหารไม่ได้

ประยุทธ์ สภาอุตสาหกรรม 165124000000.jpg


นายกฯ กล่าวด้วยว่า "ถ้าผมพูดไม่ถูกให้บอกมาว่านายกฯ พูดไม่ถูก ใช้ไม่ได้ วันนี้เราร่วมชะตากรรมกันมาเยอะแล้ว ทั้งชื่นชม ทั้งถูกบ่นและถูกว่า แล้วเราจะทิ้งกันไปได้อย่างไร เราก็ทิ้งท่านไม่ได้ ท่านก็ทิ้งผมไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม หรือจะทิ้งก็ตามใจท่าน ผมไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เพราะผมไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น เพียงแต่อยากให้มันสำเร็จในเมื่อเราลงทุนลงแรงกันมาถึงขนาดนี้ 5 ปีแล้ว แล้วทำไมไม่สงสัยกลับมาว่า ทำไมไม่สำเร็จ 5 ปีที่ผ่านมาผมอยากจะรู้ รู้ไหม ถ้าท่านไม่รู้ผมก็ไม่รู้ มันไม่สำเร็จเพราะยากง่ายต่างกัน แต่ข้อสำคัญจะทำกันหรือเปล่า เราจะสู้กันต่อไหม เรามีแรงศรัทธาต่อกันไหม ผมศรัทธาต่อท่าน ท่านจัดการต่อผมต่อรัฐบาลและ ครม. ศรัทธาซึ่งกันและกัน ใจสู้หรือเปล่า"

เมื่อถึงช่วงนี้ มีเสียงจากผู้ร่วมงานภายในห้องตอบกลับว่า "สู้" ก่อนที่นายกฯ กล่าวว่า เลยกลายเป็นมาหาเสียงแข่งกับนายสุพันธุ์หรือเปล่า วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันทำต่อทั้งหมด ไม่มีใครรุ่นไหนทำได้ทีเดียว เพราะมีการพัฒนามากี่ยุคกี่สมัย

จากนั้นในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวฝากถึงสื่อมวลชนที่นั่งหลังห้องว่า วันนี้สาระทั้งหมดเป็นเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรม ไม่ใช่เรื่องการเมืองข้างหลังจำไว้ด้วยว่าพูดเรื่องอะไร อย่ามาถามอีก ความขัดแย้งถามได้ทุกเรื่อง ถามทุกที่ พอพูดผิดตรงไหนก็เอาแล้ว นั่นแหละทำลายประเทศกันเอง วันนี้ว่าจะไม่โมโหแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง