สำนักข่าว BBC รายงานอ้างอิงรายงานฉบับพิเศษของสำนักข่าวซินหัวซึ่งระบุว่า ในการประชุมของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของจีน (Politburo Standing Committee) ซึ่งมีนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนเป็นประธาน ทางคณะกรรมการฯ กล่าวยอมรับอย่างเป็นทางการว่าในช่วงเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีบทเรียนมากมายที่จีนได้เรียนรู้จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCov) ซึ่งล้วนเป็นบททดสอบสำคัญของระบบการบริหารประเทศของจีน

"ทางการจีนต้องเร่งพัฒนาระบบการจัดการภาวะฉุกเฉินระดับชาติของเรา และต้องยกระดับขีดความสามารถในการรับมือภารกิจที่มีความอันตรายและเร่งด่วน เพื่อเป็นการตอบสนองต่อจุดอ่อนและข้อบกพร่องที่แสดงออกมาในขั้นตอนการรับมือกับวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้" รายงานของสำนักข่าวซินหัวระบุ

หนึ่งประเด็นสำคัญที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือตลาดมืดที่มีการค้าสัตว์ผิดกฎหมายซึ่งจะต้องมีการแบนอย่างเด็ดขาด และต่อจากนี้ไปก็ต้องมีการตรวจตราบรรดาตลาดต่างๆ ในจีนอย่างเข้มงวดมากขึ้น 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดฮั่วหนานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เป็นตลาดค้าอาหารทะเลสดที่จำหน่ายเนื้อสัตว์และสัตว์ที่ยังมีชีวิตทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ รวมไปถึงสัตว์ป่าแปลกๆ ที่หายาก ที่ถือเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCov) ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมางานวิจัยของนักไวรัสวิทยาชาวจีนคนหนึ่งเปิดเผยว่าค้างคาวน่าจะเป็นที่มาของไวรัสชนิดนี้

สหรัฐฯควรส่งความช่วยเหลือไปยังจีนโดยเร่งด่วน

ขณะที่ SCMP รายงานว่าช่วงเช้าของวันนี้ (4 ก.พ.) ในจีนมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว 427 ราย และยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 20,623 คน การถกเถียงกันว่าด้วยเรื่องการระบาดของไวรัสดังกล่าวระหว่างจีนและสหรัฐฯยังดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามทำเนียบขาวยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนในการอนุญาตให้สหรัฐฯส่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณะสุขเข้าไปช่วยเหลือแล้ว

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนยืนยันในประเด็นนี้ โดยตอบกลับมายังรัฐบาลสหรัฐฯเพียงสั้นๆว่า "จีนทราบดีว่าสหรัฐฯได้เสนอความช่วยเหลือมายังจีนแล้วหลายครั้ง เราหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือนั้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สหรัฐฯควรประเมิณสถานการณ์การระบาดอย่างสุขุมและตรงจุดประสงค์ และสหรัฐฯควรให้การเคารพและทำงานร่วมกับจีนเพื่อควบคุมการระบาดในครั้งนี้"