สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่ารัฐบาลอินเดียดำเนินการจัดซื้อเครื่องฟอกอากาศไปติดตั้งที่กระทรวงต่างๆ เกือบ 300 เครื่อง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศที่ย่ำแย่ เนื่องจากดัชนีคุณภาพอากาศในประเทศ (Air Quality Index : AQI) ขึ้นไปสูงถึงเกือบ 300
6 กระทรวงที่จัดซื้อเครื่องฟอกอากาศ ประกอบไปด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยว กระทรวงการเกษตร และองค์กรระดมสมองของอินเดีย (think-tank) โดยคิดเป็นจำนวนเครื่องฟอกอากาศทั้งหมด 159 เครื่อง ในช่วงระยะเวลา 2561 - 2562 คิดเป็นจำนวนเงิน 70,353 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.17 ล้านบาท ตามข้อมูลที่ไม่ได้เผยแพร่เป็นสาธารณะ แต่รอยเตอร์สได้มาภายใต้กฎหมายสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของรัฐสภาอินเดีย
ขณะที่ตัวเลขการจัดซื้อเครื่องฟอกอากาศระหว่างปี 2557 - 2560 มีทั้งสิ้น 140 เครื่อง คิดเป็นมูลค่า 55,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพอากาศของประเทศได้
'วิมเลนดู จาห์' นักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า "การใช้เงินภาษีของประชาชนมาซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เจ้าพนักงานใช้คืออาชญากรรมอย่างที่สุด"
สถานการณ์ปัญหามลพิษในอากาศของอินเดียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้าเลวร้ายจนรัฐบาลต้องออกมาสั่งปิดโรงเรียน และเข้มงวดในการใช้รถยนต์ และประกาศสภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพสาธารณะ
ขณะที่ฝั่งรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจัดซื้อเครื่องฟอกอากาศแต่อย่างใด พร้อมชี้้ว่า "การที่เจ้าหน้าที่ขังตัวเองอยู่แต่ในที่ทำงาน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ได้สูดอากาศพิษ"
เครื่องฟอกอากาศเป็นสินค้าที่มีราคาสูงเกือบ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31,000 บาท ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรอินเดียในกรุงนิวเดลีอยู่ที่ประมาณ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,300 บาท/เดือน
นอกจากนี้ยังมีคนไร้บ้านอีกหลายพันคนต้องทนอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวและอากาศที่เป็นพิษ ท่ามกลางประชากรกว่า 20 ล้านคนในเมืองหลวงของอินเดีย
อ้างอิง; Reuters/ India Times