นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจในช่วงครึ่งแรกปี 2562 มีจำนวนโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 1,670 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 152,149 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 669,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 11.8 ร้อยละ 15.4 และร้อยละ 28.2 ตามลำดับ (ครึ่งแรกปี 2561 มี 1,494 โครงการ มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 131,819 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 522,436 ล้านบาท)
โดยโครงการบ้านจัดสรรมีจำนวนโครงการ 1,137 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 87,180 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 404,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 9.2 ร้อยละ 16.3 และร้อยละ 22.3 ตามลำดับ (ครึ่งแรกปี 2561 มี 1,041 โครงการ มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 74,976 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 330,752 ล้านบาท) และโครงการอาคารชุดมีจำนวน 533 โครงการ มีหน่วยเหลือขายจำนวน 64,969 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเหลือขาย 265,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 17.7 ร้อยละ 14.3 และร้อยละ 38.4 ตามลำดับ (ครึ่งแรกปี 2561 มี453 โครงการ มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 56,843 หน่วย มีมูลค่าเหลือขาย 191,683 ล้านบาท)
ภาพรวมอุปทานโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ช่วงครึ่งแรกปี 2562 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ทั้งโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด เนื่องจากอัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยลดลงทุกประเภทจากช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์อัตราดูดต่อซับต่อเดือนลดลงมากที่สุดร้อยละ 1.0
โครงการบ้านจัดสรร ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 87,180 หน่วย พบว่าเมื่อแยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่าส่วนใหญ่เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างจำนวน 42,880 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 49.2 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด รองลงมาเป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 26,532 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 30.4 และหน่วยที่สร้างเสร็จจำนวน 17,768 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 20.4 โดยหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จเหลือขาย(พร้อมโอน) หรือเป็น Inventory ในตลาดมีจำนวน 44,300 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 50.8 ของหน่วยที่เหลือขายทั้งหมด
ทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรกโดยพิจารณาจากหน่วยเหลือขายสะสม ได้แก่
โดยส่วนใหญ่แล้วทั้ง 5 ทำเลนี้เหลือขายในประเภททาวน์เฮ้าส์ และอยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาทมากที่สุด
ทำเลบ้านจัดสรรที่ขายได้ใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรกโดยพิจารณาจากหน่วยขายได้ใหม่ ได้แก่
โดยทำเลเกือบทั้งหมดใน 5 อันดับนี้ ขายได้ใหม่ในประเภททาวน์เฮ้าส์ และอยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาทมากที่สุด ยกเว้นทำเลเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ได้ขายใหม่ในประเภททาวน์เฮ้าส์ และอยู่ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด
โครงการอาคารชุด ในจำนวนหน่วยเหลือขาย 64,969 หน่วย พบว่าเมื่อแยกตามสถานะของการก่อสร้าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 33,817 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 52.1 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด รองลงมาเป็นหน่วยที่สร้างเสร็จจำนวน 17,345 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 26.7 และหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างสร้างจำนวน 13,807 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 21.3 โดยหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จเหลือขาย(พร้อมโอน) หรือเป็น Inventory ในตลาดมีจำนวน 51,162 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 78.7ของหน่วยที่เหลือขายทั้งหมด
ทำเลบ้านอาคารชุดที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรกโดยพิจารณาจากหน่วยเหลือขายสะสม ได้แก่
ทำเลบ้านอาคารชุดที่ขายได้ใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรกโดยพิจารณาจากหน่วยขายได้ใหม่ ได้แก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :