นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 7/2562 วันนี้ (22 พ.ย.2562) ว่าที่ประชุมได้มีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยล่าสุดในไตรมาสที่ 3/2562 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.4 แม้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า แต่เศรษฐกิจไทยยังถือว่าปรับตัวขึ้นช้าอยู่ โดยปัจจัยสำคัญเป็นผลมาจาการเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.2562) เศรษฐกิจไทยขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.5 โดยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.6 จากเดิมที่ประมาณการว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.8
นายกอบศักดิ์ ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 3 เนื่องจากประเมินว่ายังมีแรงกดดันหลายปัจจัย โดยในช่วงที่เหลือ 5 สัปดาห์ อาจจะต้องจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสหากิจที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 115,552 ล้านบาท
ส่วนในปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในกรอบร้อยละ 2.7-3.7 ซึ่งรัฐบาลจะเน้นมาตรการ 5 ด้าน คือ การดูแลเกษตรกร กำลังแรงงาน ผู้มีรายได้น้อย SMEs และเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่กับการขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ การขับเคลื่อนการส่งออกให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 การสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 41.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 39.8 ล้านคนในปี 2562 และการสร้างความเชื่อมั่นลงทุนภาคเอกชน มีเป้าหมาย 3,012 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับรายงานจากการกระทรวงคมนาคม และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับโครงการรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 ซึ่งเป็นงานระบบ วงเงิน 50,633 ล้านบาท จะให้มีการกู้เงินในรูปของดอลลาร์สหรัฐ แทนการกู้เงินในรูปของเงินบาท เนื่องจากประเมินว่าคุ้มค่ามากกว่า โดยจะต้องไปหารือร่วมกับรัฐบาลจีนอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะมีการกู้เงินจากแหล่งใด
อ่านเพิ่มเติม