นายอดิศร เพียงเกษ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าความขัดแย้งในปัจจุบันที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้เลิกทะเลาะกันนั้น เกิดจากนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่ครองอำนาจบริหารประเทศและมีผลประโยชน์ทับซ้อน น่าจะเป็นการกล่าวพาดพิงให้ร้ายต่ออดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะนั้นตนเป็น ส.ส. พรรคไทยรักไทยและเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง

ต้องเรียนว่าท่านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศอย่างถล่มทลาย และมีนโยบายที่ดี ตอบโจทย์พี่น้องประชาชน เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนมีความศรัทธาอย่างมาก

นายอดิศรกล่าวอีกว่าความขัดแย้งต่าง ๆ ที่นายเทพไทพูดนั้น ไม่ใช่เพราะ นายทักษิณและพรรคไทยรักไทย แต่ศรัทธาจากพี่น้องประชาชนต่อพรรคไทยรักไทยทำให้พรรคประชาธิปัตย์ลืมไม่ลง คล้ายกับว่าตกภวังค์ความกลัวต่อ นายทักษิณ ชินวัตร มีความวิตกกังวลเพราะแพ้การเลือกตั้งอย่างซ้ำซากมาโดยตลอด จนนายเทพไทแยกไม่ออกระหว่างการทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนกับผลประโยชน์ทับซ้อน

จุดเริ่มของความขัดแย้งก็คือ การที่ฝ่ายอำนาจเดิมที่มีประชาธิปัตย์ร่วมอยู่ด้วย เป็นฝ่ายต้องการให้อำนาจเดิมซึ่งเป็นอำนาจที่ถอยหลังลงคลอง ไม่เป็นประชาธิปไตยมาร่วมทำการที่ไม่ชอบ เช่น กวักมือเรียกทหารให้ทำรัฐประหาร อันนั้นต่างหากที่เป็นความขัดแย้งที่ประชาธิปัตย์กระทำขึ้นมา ไม่ใช่พรรคไทยรักไทยอย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้อยากเตือนนายเทพไท อย่ามองข้ามประวัติศาสตร์ ตนรู้กำพืดนายเทพไทดี เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงข้างน้อย ก็มีการชุมนุมคัดค้านกระทั่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และการชุมนุมครั้งต่อมาที่ประชาธิปัตย์เข้าร่วมคือการเป่านกหวีดต่างหากที่สร้างความขัดแย้งและความหายนะให้แก่ประเทศชาติจนถึงปัจจุบัน จึงอยากขอเตือนคุณเทพไทว่า ถ้าจะแว้งมาทางพรรคไทยรักไทยหรือเพื่อไทย กรุณาเคารพความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลายด้วย