ไม่พบผลการค้นหา
ปลดล็อกเสรี 'กระท่อม' แล้ววันนี้ (24 ส.ค.64) ประชาชนครอบครองซื้อขายได้ พร้อมปล่อยตัวนักโทษคดีกระท่อม 1,038 คน ถือว่าไม่เคยกระทำความผิด

ที่รัฐสภา สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงปลดล็อกให้พืชกระท่อมไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป หลังเริ่มมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 8 พ.ศ.2564 วันนี้ (24 ส.ค.64)เป็นวันแรก โดยให้ถือว่าประชาชนสามารถปลูกพืชกระท่อมได้อย่างเสรี หรือจะบริโภคก็สามารถทำได้ ส่วนกรณีการเทียบสัดส่วน 4x100 ยังเป็นการผิดกฎหมายอยู่

สาระสำคัญการบังคับใช้กฎหมายคือให้ผู้ที่ปลูกกระท่อมไว้ครอบครองสามารถซื้อ ขาย หรือนำมาบดเคี้ยวได้ และปลูกต้นกระท่อมเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ ยังขยายไปถึงการสามารถส่งขายเป็นพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม โดยไม่ต้องขออนุญาต และหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายรองตามมา ซึ่งจะมีบทบัญญัติเพิ่มเติม อาทิ การกำหนดห้ามขายให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นเยาวชน รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเตรียมกำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น ในโรงเรียน วัด ส่วนประเภทธุรกิจการส่งออกหรือนำเข้านั้นจะต้องขออนุญาต

สำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ 1,038 คน จะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงในชั้นตำรวจและอัยการ ประมาณ 1 หมื่นคน จะถือว่าไม่เคยกระทำความผิด


ราชทัณฑ์ เตรียมพร้อมปล่อยตัวผู้พ้นโทษ

กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (24 ส.ค.) เป็นวันแรก ส่งผลให้ผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินจำคุกในฐานความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมจะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวพ้นโทษ หรือพิจารณาโทษจำคุกใหม่ตามแต่กรณี โดยผู้ต้องขังทั้งกลุ่มผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และนักโทษเด็ดขาดที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียว จะได้รับการปล่อยตัว ส่วนในรายที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย หากเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี จะยังอยู่ในกระบวนต่อไป ส่วนนักโทษเด็ดขาด จะได้รับการพิจารณาออกหมายจำคุกฉบับใหม่แทนหมายเดิม ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ส่งรายชื่อและคำร้องของผู้ต้องขังไปยังศาล เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 1,297 ราย โดยเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อมคดีเดียวและจะได้รับการปล่อยตัว จำนวน 121 ราย และที่กระทำความผิดคดีอื่นร่วมด้วย จำนวน 1,176 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดีและออกหมายจำคุกฉบับใหม่

ทั้งนี้ การปล่อยตัวผู้ต้องขังทุกราย เป็นไปตามแนวทางการปล่อยตัวผู้พ้นโทษในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาทุกรายจะต้องปลอดเชื้อ