นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของ กกต.หลังมีมติเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เสนอยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้ยืมเงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 191.2 ล้านบาท
เนื้อหาทั้งหมดระบุผ่านเฟซบุ๊กดังนี้
"5 : 2 มติเสียงข้างมากในฤดูหนาว
อ่านข่าวแจก 8 บรรทัดของ กกต.แล้ว จะเห็นว่าการลงมติของ กกต. ไม่พยายามพูดถึง เงินกู้เป็นเงินบริจาค เพราะเงินกู้คือเงินกู้ ไม่ใช่เงินบริจาค ดังนั้น จึงไม่สามารถไปเอาความผิดพรรคอนาคตใหม่ว่าไปรับเงินบริจาคเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ เหตุผลจึงออกมาในการอิง มาตรา 72 ของ พรป.พรรคการเมือง
แต่หากพิจารณาสาระของ มาตรา 72 จะอยู่ที่ เงินที่บริจาคที่ "ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย" ไม่ใช่เรื่องบริจาคเงินเกินกว่า กฎหมายกำหนด
สาระของมาตรานี้ จึงเป็นการห้าม "เงินสกปรก" ที่จะเข้ามาสนับสนุนพรรคการเมือง เช่น เงินบ่อน เงินซ่อง เงินค้าอาวุธสงคราม เงินค้าของหนีภาษี ฯลฯ ไม่ว่าจะบริจาคสักกี่บาทก็ตาม ถือว่า ห้ามรับ เพราะเป็นการเอาเงินธุรกิจสีเทามาสนับสนุนฝ่ายการเมือง
คำถามจึงกลับไปที่ กกต.ว่า "แน่ใจแล้วหรือที่ใช้มาตรานี้ ในการจัดการกับพรรคอนาคตใหม่ ท่านรู้แล้วใช่ไหมว่าเงินที่มาให้กู้เป็นเงินสกปรก"
ความหนาวจึงมาเยือน กกต.เสียงข้างมากที่ลงมติ หากจะมีการร้องกลับว่า กกต.วินิจฉัยโดยมิชอบ เพราะหาก กกต.ผิดจริง ความผิดจะตกกับเสียงข้างมากที่ลง ส่วน 2 เสียงที่ลงมติ นั้น ถ้า 5 เสียงถูกต้อง เขาไม่ได้ผลกระทบอะไร แต่ 5 เสียงผิด เอกสารการลงมติจะช่วยยืนยันว่า เขามิได้เห็นด้วยในเรื่องนี้
มติข้างน้อยที่ลง จึงเป็นเครื่องอำนวยให้อบอุ่นในหน้าหนาวนี้"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :