ไม่พบผลการค้นหา
ประเทศไทยเตรียมแถลงข่าวนับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ชูแนวคิด 'กรีนซีเกมส์' ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 จะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการแข่งขัน และกีฬาสาธิต 3 ชนิด

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ, นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วมประชุม

นายสรวงศ์ เทียนทอง เปิดเผยว่า ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 มีความพร้อมเต็มที่ในการจัดงานระดับภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “กรีนซีเกมส์” ที่เน้นความใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย โดยในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 จะมีการจัดงานแถลงข่าว “นับถอยหลังสู่ซีเกมส์ ครั้งที่ 33” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของคนไทยทั่วประเทศ

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการแข่งขัน และกีฬาสาธิต 3 ชนิด โดยการกำหนดชนิดกีฬาดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาและรับรองจากสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGF)

ในด้านการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา จะมีการแข่งขันทั้งหมด 19 ชนิดกีฬา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับกีฬาโบว์ลิ่งคนพิการ ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เพื่อพิจารณาความเห็นชอบต่อไป

สัญลักษณ์และคำขวัญประจำการแข่งขัน

สำหรับตราสัญลักษณ์ของซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีการใช้ ปลากัดไทย เป็นตัวแทน พร้อมคำขวัญ “Ever Forward” (ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง) และนำโชค “มาวิน” ช้างน้ำวารีกุญชร ในขณะที่การแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปคนนั่งรถวีลแชร์ พร้อมคำขวัญ “Create Pride Together” (สร้างความภูมิใจไปด้วยกัน) และนำโชค “น้องใจแกร่ง” แมวโคราช

นายสรวงศ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “การแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดงานระดับนานาชาติ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ชลบุรี สงขลา และนครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วม ผมขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย และแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักกีฬาจากทั่วภูมิภาค”