ไม่พบผลการค้นหา
'สมศักดิ์ เทพสุทิน' รมว.สธ. เผยผลหารือผู้แทน WHO พร้อมร่วมมือช่วยเหลือผู้หนีภัยเมียนมา รับมือโรคระบาดชายแดน ตามหลักมนุษยธรรม เผย M-Fund เล็งขยายทำประกันสุขภาพให้ผู้อพยพ แต่ยังขาดหน่วยงานรับผิดชอบด้านค่าธรรมเนียม ลุยลด NCDs ให้บรรลุเป้าหมายโลก ปี 2573

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการนำผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้าหารือร่วมกับ นพ.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568ที่ผ่านมา ใน 2 ประเด็นหลัก คือ

1. ผลกระทบด้านสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมา จากการหยุดให้บริการของโรงพยาบาลในศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบเมียนมา หลังจากสหรัฐอเมริการะงับงบประมาณสนับสนุนให้แก่องค์กร International Rescue Committee (IRC) เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งดูแลศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ 7 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี (บ้านถ้ำหิน อ.สวนผึ้ง) กาญจนบุรี (บ้านต้นยาง อ.สังขละบุรี) ตาก (บ้านนุโพ อ.อุ้มผาง, บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ, บ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง) และแม่ฮ่องสอน (บ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม, บ้านใหม่ในสอย อ.เมือง) ส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เบื้องต้นได้ชี้แจงผลการหารือร่วมกับ Ms. Saima Wazed ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ประเทศไทยจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการส่งต่อผู้ป่วยจากศูนย์พักพิงฯ จำนวน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดย Ms. Saima ขอรับไปหารือกับผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกต่อไป

“ทาง WHO แสดงความกังวลถึงการจัดการด้านสาธารณสุขในระยะกลางและระยะยาว โดยเฉพาะด้านสุขาภิบาลและการแพร่ระบาดของโรคจากการเข้ามาของผู้อพยพ ซึ่ง นพ.จอส ระบุว่า ได้หารือกับผู้แทนของ M-Fund องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่รับเงินสนับสนุนจากฝรั่งเศสในการซื้อประกันสุขภาพให้แก่ประชากรต่างด้าวเมื่อวันที่7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย M-Fund มีแนวคิดที่จะขยายประกันสุขภาพให้กับผู้อพยพ แต่ยังไม่มีคำตอบว่าหน่วยงานใดจะรับผิดชอบค่าธรรมเนียมประกันสุขภาพ โดย WHO ยินดีทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้อพยพ และเตรียมพร้อมรับมือกรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคตามแนวชายแดนไทย ซึ่งตนได้มอบให้ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประสานการดำเนินงานกับผู้แทน WHO ประจำประเทศไทยในเรื่องนี้” นายสมศักดิ์กล่าว

IMG_20250212082902000000.jpg


2. การดำเนินงานด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งโรค NCDs ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงมากและเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของคนไทย นโยบาย “คนไทยห่างไกล NCDs” เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ลดการบริโภคคาร์บ ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน อสม. กว่า 1,080,000 คนทั่วประเทศ ในการสื่อสารกับชุมชนให้มีความรู้ความเข้าใจและปรับพฤติกรรมการกินแบบนับคาร์บ โดยใช้ “ทัพพี” เป็นสื่อในการสื่อสารคำนวณปริมาณคาร์บที่ควรบริโภคต่อวัน ซึ่งควรบริโภคไม่เกินร้อยละ 20 ของพลังงานที่ใช้ต่อวัน คาดว่าจะสามารถรณรงค์นโยบายดังกล่าวให้ประชาชนมีความเข้าใจได้มากถึง 50 ล้านคนภายในปีนี้ ล่าสุด อสม.ได้ให้ความรู้กับประชาชนไปแล้ว 12 ล้านคน ฃ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยินดีทำงานร่วมกับ WHO เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านโรค NCDs ให้บรรลุเป้าหมายแผนปฏิบัติการระดับโลกว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อขององค์การอนามัยโลก ภายในปี 2573 ซึ่ง นพ.จอส ได้ชื่นชมนโยบายดังกล่าวเป็นอย่างมาก และยินดีสนับสนุนการดำเนินงานซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกันโรค NCDs

IMG_20250212082900000000.jpg