นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด -19 ในประเทศไทยว่า ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกัน จนทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปด้วยดี มียอดผู้ติดเชื้อน้อยลง แต่ต้องขอให้ประชาชนอย่าประมาท อย่าเพิ่งวางใจในสถานการณ์
"เรามาถึงจุดที่คุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนสำคัญมากๆ เพราะประชาชนช่วยกัน ถ้าการ์ดตก ผู้ติดเชื้ออาจจะเพิ่มขึ้น แน่นอนว่า เราจะไม่อยู่แบบนี้ตลอดไป แต่มาตรการต่างๆ จะผ่อนคลายบนพื้นฐานของการวางแผนที่ดี ที่ต้องพิจารณารอบด้าน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ทำเรื่องชี้แจงและเสนอแนะกับ ศบค. เพื่อพิจารณาแล้ว"
พยาบาลแห่ขอบคุณ ‘อนุทิน’ ดันบรรจุข้าราชการ
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (15 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข พยาบาลกว่า 50 คนจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า สถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลศรีธัญญา ได้นำดอกไม้มาขอบคุณนายอนุทิน ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้มีการบรรจุพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เป็นข้าราชการ ได้สำเร็จ
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณ สำหรับน้ำใจที่นำมามอบให้ สิ่งที่พวกท่านได้รับในวันนี้นั้น ควรค่าแก่การทำงานหนักของพวกท่านทุกคน จากนี้ หวังว่าขวัญกำลังใจที่ท่านได้รับมา จะเป็นแรงผลักดันในการทำงานของพวกท่าน เพื่อทำงานบริการประชาชนอย่างสุดความสามารถ
“ความสำเร็จดังกล่าว จะไม่มีทางเกิดขึ้น หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเห็นด้วยกับข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข และเร่งให้ดำเนินการโดยเร็ว สุดท้ายแล้วผมและคณะผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความยินดีกับพยาบาลทุกท่านที่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ” นายอนุทิน ระบุ
ตรวจเยี่ยมสถาบันบำราศฯ ยกย่องแพทย์รักษาผู้ป่วยโควิด-19
นอกจากนี้ นายอนุทินพร้อมคณะยังเดินทางไปตรวจเยี่ยมระบบคัดกรอง และรักษาผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยมีนพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันฯ ให้การต้อนรับ ระหว่างทางนายอนุทิน ได้สอบถามประชาชน ถึงความพึงพอใจในการได้รับบริการ และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน จากนั้นนายอนุทินได้เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังแผนรับมือสถานการณ์การระบาด และมอบเครื่องช่วยหายใจ 2 เครื่อง ที่ได้รับการสนับสนุนมาก จากพล.อ.นพ.ประจักษ์ บุญจิตต์พิมล และครอบครัว ให้กับทางสถาบันฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก ภายใต้ภาวะที่มีความเสี่ยง ถือว่าท่านเป็นผู้เสียสละ เพราะทราบมาว่าหลายท่านสมัครใจมาทำงานในส่วนของด่านคัดกรอง และรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคที่แพร่กระจายได้ง่าย และในฐานะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด้านสาธารณสุข ต้องทำงานใกล้ชิดผู้ป่วย ย่อมมีความเสี่ยงสูงมากอยู่แล้ว การตัดสินใจของท่าน ต้องได้รับการยกย่อง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ในการสนับสนุนการทำงานของฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งเราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด การบรรจุพนักงานข้าราชการ ให้เป็นข้าราชการเต็มตัว เป็นความตั้งใจของเรา เพื่อตอบแทนความตั้งใจของคนทำงาน ให้คนทำงานมีความมั่นใจในการทำงาน และการตัดสินใจครั้งนี้ คือการวางรากฐานที่สำคัญให้กับระบบสาธารณสุขไทย รัฐจะไม่เสียคนดีมีฝีมืออีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ระบบบริการด้านสาธารณสุขของไทยมีความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ สถาบันบำราศนราดูร นับว่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในอนาคต ที่นี่จะเป็นสถาบันซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องไวรัสโควิด-19 ในระดับโลก แต่วันนี้ ต้องยอมรับว่าบุคลากรสาธารณสุข ทำงานหนักมาก ทุกคนสามารถแบ่งเบางานได้ ด้วยการระมัดระวังตัวเอง เว้นระยะห่างระหว่างกัน