นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปี 2562 พบว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้น 184,046 ล้านบาท ต่ำกว่าปี 2561 อยู่ที่ 15,454 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 12,017 ล้านบาท หรือขาดทุนสูงกว่าปีก่อน 448 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9
ส่วนค่าใช้จ่ายรวม 196,470 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 12,088 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 5.8 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร ลดลงร้อยละ 0.9 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร หรือ Cabin Factor เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 79.1 สูงกว่าปีก่อนที่ร้อยละ 77.6 และจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 24.51 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.8 สำหรับ
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้บริษัทขาดทุน เป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจการบิน ซึ่งการบินไทยทำการบินในทั้งในภูมิภาคเอเชียและยุโรปจึงได้รับผลกระทบมากกว่าสายการบินอื่นโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ความไม่สงบในประเทศต่างๆเช่นการปิดน่านฟ้าปากีสถานและเหตุการณ์ความไม่สงบในอินเดีย นอกจากนี้ยังมีการรับรู้ค่าชดเชยตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นจาก 300 วันเป็น 400 วัน
นายสุเมธ ระบุว่า ในส่วนของแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่จำนวน 38 ลำ ยืนยันว่า จะยังคงเดินหน้าตามแผน คาดว่าจะสามารถว่าสรุปได้ภายในเดือนนี้ก่อนจะสรุปเพื่อเตรียมขออนุมัติจากกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลต่อไป ส่วนในปี 2563 ประเมินว่าบริษัทฯ จะยังไม่สามารถกลับมาทำกำไรได้ เนื่องจากขณะนี้ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งประเมินว่าจะกว่าอาจจะยืดเยื้อต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 3/2563 ทำให้บริษัทฯต้องเตรียมปรับลดเที่ยวบินลงเป็นร้อย 20 ภายในเดือน มี.ค. นี้
