ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ถนนพญาไท วังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องให้ตรวจสอบเงินบริจาค หรือ "ท่อน้ำเลี้ยง" ของกลุ่มเยาวชนนักศึกษาที่จัดชุมนุมสาธารณะ โดยสั่งให้ธนาคารต่าง ๆ ที่บุคคลหรือกลุ่มเปิดบัญชีรับบริจาค เพื่อจัดการชุมนุม รายงานให้กับ ปปง.ทราบว่ามีใครบ้างที่บริจาคบ้าง เพื่อที่จะได้เรียกมาดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดต่อไป รวมถึงระงับธุรกรรมทางการเงินทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการเบื้องต้นด้วย โดยมีร้อยตำรวจเอกไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการและโฆษกประจำ ปปง.เป็นผู้รับหนังสือ
ศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดชุมนุมอย่างต่อเนื่องโดยเปิดรับบริจาค ส่วนแกนนำรวมถึงผู้ที่ปราศรัยหลายคนถูกดำเนินคดีหลายครั้ง จึงเข้าองค์ประกอบความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่มีดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ร่วมบริจาคให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ที่ถือเป็นตัวการร่วม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 86 ในฐานะผู้สนับสนุนให้มีการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งรวมถึงผู้ที่แชร์หรือโพสต์ทางโลกออนไลน์เชิญชวนให้บริจาคด้วย
เชื่อว่าการชุมนุมที่ผ่านมา รวมถึงวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีกลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มทุนอยู่เป็นท่อน้ำเลี้ยงอยู่เบื้องหลัง เพราะการจัดชุมนุมแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งตนได้นำหลักฐานผู้สนับสนุนที่ประกาศตัวชัดเจนโดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย จำนวน 11 คนทั้งศิลปิน, นักแสดง, ผู้กำกับภาพยนต์และนักธุรกิจ มายื่นให้ ปปง.ด้วย
สำหรับการชุมนุมในห้วง 10 ปีที่ผ่านมาทั้ง นปช.และ กปปส.ล้วนแต่ผิดกฎหมาย และการบริจาคเงินให้การชุมนุมที่ผิดกฎหมายก็ถือเป็นความผิดด้วยเช่นกัน เพียงแต่กรณีที่ผ่านมาโดยเฉพาะ กปปส.ใช้การเดินเรี่ยไรเงิน จึงหาหลักฐานเอาผิดยาก และระบุด้วยว่า หากชุมนุมผิดกฎหมายก็อย่าให้เห็นหลักฐานการบริจาคเงิน ส่วนการออกมาตรวจสอบครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่กังวลว่าจะมีผู้เห็นต่างโจมตี แม้ตนยึดมั่นว่าการความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ฝากเตือนด้วยว่า อย่าเกินเลยถึงขั้นหมิ่นประมาท เพราะมีความผิดตามกฎหมาย
อ่านเพิ่มเติม