ที่รัฐสภา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรค ว่า มีข้อสรุป 2 ประเด็น คือ 1.ที่ประชุมเห็นตรงกันให้เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเสียง ส.ส.จองพรรคจำกัด จะเสนอพรรคเดียวไม่ได้ เพราะเรามีเพียง 52 เสียง ซึ่งหากจะเสนอเองต้องใช้เสียงถึง 100 เสียง ดังนั้น แนวทางที่ดีที่สุด คือ เสนอร่างร่วมกัน ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้วิปของพรรคไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล
และ 2.สำหรับการกำหนดประเด็นเพิ่มเติม นอกจากการแก้ไข ม.256 ที่ประชุมให้มีคณะทำงานชุดหนึ่งเพื่อกำหนดประเด็น ข้อเสนอและรายละเอียดก่อนนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ ประกอบด้วย บัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค, เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรค, ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และประธานวิปพรรค และมีคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานนี้
เมื่อถามว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีการใด จุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้วิปรัฐบาลไปหารือกันก่อน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทั้งหมดวิปจะเป็นผู้ทำหน้าที่หารือ โดยในส่วนของประชาธิปัตย์ ชินวรณ์จะเป็นผู้ประสานงานกับวิปรัฐบาล ทั้งนี้ ประเด็นที่จะกำหนดมีอยู่เบื้องต้นแล้วนอกจาก ม.256 ที่เป็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่ให้คณะทำงานหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเท่านั้นเอง
ถามย้ำถึงท่าทีของ ส.ว. จุรินทร์ กล่าวว่า ขอไม่ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ เพราะพรรคไม่ประสงค์จะขัดแย้งกับฝ่ายใด พรรคมุ่งไปที่ผลสัมฤทธิ์ของการแก้ไขและอยากให้สำเร็จ แต่การแก้ไข รธน.ไม่ว่าจะมาตราใดก็ตามจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายและการสนับสนุนจาก ส.ว.
ด้านชินวรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้วิปรัฐบาลได้คุยเรื่องดังกล่าวอยู่ตลอด ซึ่งจากนี้ตนจะได้นำผลการประชุมพรรคไปหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาล เพราะวิปต้องฟังทั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 รวมถึงเสียงของพรรคการเมืองต่างๆด้วย
เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ยังไม่ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชินวรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังทุกพรรคเห็นด้วยในการแก้ไข แต่คงต้องคุยในรายละเอียดต่อไป