วันนี้ (11 ก.พ. 2568) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวปิง คิตนีกอน (H.E. Ms. Ping Kitnikone) เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-แคนาดา สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีมายาวนานกว่า 64 ปี พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือกันในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เวียงจันทน์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ กล่าวแสดงความยินดีที่ไทยและแคนาดามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกัน พร้อมเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านต่าง ๆ ต่อไป ทั้งด้านความมั่นคง การปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน เศรษฐกิจ และความร่วมมือในกรอบอินโด-แปซิฟิก เพื่อรับมือกับความท้าทายท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
ด้านความมั่นคงและกลาโหม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณแคนาดาที่ให้การสนับสนุนการฝึกอบรมภาษาอังกฤษแก่บุคลากรทหารของไทย และกล่าวชื่นชมการที่แคนาดาเข้าร่วมในโครงการความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรไทยในการจัดการภัยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยินดีสนับสนุนความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทย เพราะเชื่อว่าความมั่นคงจะไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตแคนาดาฯ ยังกล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ รวมทั้งการเริ่มบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ทำให้ไทยเป็นชาติในเอเชียไม่กี่ประเทศ/ดินแดน ที่รับรองการสมรสเท่าเทียม ด้านรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลยังสนับสนุนบทบาทสตรีในด้านสันติภาพและความมั่นคง โดยส่งทหารหญิงเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ทั้งในเซาท์ซูดาน อินเดีย ปากีสถาน และสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์กอีกด้วย
ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมศักยภาพอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของแคนาดา พร้อมยังได้เชิญชวนให้แคนาดาเข้าร่วมงาน Defense & Security 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ด้านเอกอัครราชทูตแคนาดาฯ กล่าวถึงความเชี่ยวชาญและศักยภาพของระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบบูรณาการ (Integrated Air Defense System) และเฮลิคอปเตอร์จากแคนาดา ซึ่งไทยและแคนาดาสามารถร่วมมือกันได้ในอนาคต ส่วนการเข้าร่วมงาน Defense & Security 2025 แคนาดายินดีพิจารณาแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของแคนาดาเข้าร่วมงานดังกล่าว
สำหรับความร่วมมือในกรอบภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รองนายกรัฐมนตรียินดีที่แคนาดามีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับแคนาดาที่สอดคล้องกับเอกสารมุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific: AOIP) เพื่อรับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคร่วมกันกับแคนาดา