นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วกว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์โควิด-19 ของไทยดีกว่าอีกหลายประเทศ อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2563 ยังออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่ง ธปท.กังวลว่าการแข็งค่าเร็วของเงินบาทอาจไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจจริงของประเทศที่ยังเปราะบาง
นอกจากนี้ สถานการณ์ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็มีส่วนสร้างแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปอีก ซึ่งแบงก์ชาติชี้ว่าจะเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของกลุ่มผู้ค้าทองคำให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน
ขณะเดียวกัน แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ในไทยและภูมิภาคที่ปรับดีขึ้น ก็อาจทำให้ค่าเงินสกุลเอเชียและเงินบาทเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนบางกลุ่มที่ใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท.ไม่ต้องการและพร้อมพิจารณาใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อไม่ให้การแข็งค่าของเงินบาทซ้ำเติมความเปราะบางของเศรษฐกิจที่เป็นอยู่
นายเมธี ปิดท้ายว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีอยู่จากทั้งปัจจัยจากโควิด-19 และตลาดการเงินโลกเอง ดังนั้นนักลงทุนจึงควรป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรับมือกับความผันผวนจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาททั้ง 2 ทิศทางในระยะข้างหน้า