โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ยุคสมัยแห่งความหวาดกลัวของพลตรีกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ กองกำลังสำคัญของกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ได้จบลงแล้ว หลังสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ใช้โดรนโจมตีทางอากาศใส่ขบวนรถของโซเลมานี ระหว่างเดินทางไปยังสนามบินแบกแดดของอิรัก
ทรัมป์ยังกล่าวว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้สังหารพลตรีโซเลมานี ซึ่งเป็น “ผู้ก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก” เพราะเป็นผู้วางแผนโจมตีทูตและทหารอเมริกัน และการสังหารนี้มีเป้าหมายเพื่อจะยุติสงคราม ไม่ใช่เพื่อเปิดฉากสงครามครั้งใหม่ แม้ก่อนหน้านี้ อิหร่านจะออกมาประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นคนที่มีส่วนรับผิดชอบกับการสังหารพลตรีโซเลมานี ส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างทั้งสองประเทศตึงเครียดขึ้น
ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนให้พลเมืองอเมริกันเดินทางออกจากอิรักทันที อีกทั้งยังมีคำสั่งให้ส่งทหารไปประจำการในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอีกถึง 3,000 นายเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่จะตึงเครียดขึ้นอีก
ด้านโทรทัศน์ของรัฐบาลอิรัก รายงานว่า มีการโจมตีทางอากาศในอิรักอีกครั้ง สำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพอิรักว่ามีผู้เสียชีวิต 6 รายจากการโจมตีทางอากาศครั้งใหม่นี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 24 ชั่วโมงหลังการโจมตีสังหารพลตรีโซเลมานี แต่ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ออกมายืนยันว่าได้โจมตีทางอากาศอีกครั้งหรือไม่
การสังหารพลตรีโซเลมานีทำให้ทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าพยายามจะทำสงครามกับอิหร่าน เพื่อปลุกกระแสชาตินิยมในสหรัฐฯ และกลับมาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย ทั้งที่เขาเคยพูดไว้ก่อนการเลือกตั้งปี 2012 ว่าบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้นจะทำสงครามกับอิหร่านเพื่อจะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย
อย่างไรก็ตาม ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการฟ็อกซ์แอนด์เฟรนด์สว่า สหรัฐฯ ไม่ได้หาเรื่องทำสงครามกับอิหร่าน แต่สหรัฐฯ ไม่สามารถทนให้อิหร่านมาทำให้ชีวิตชาวอเมริกันต้องเสี่ยงอันตราย โดยไม่ตอบโต้อะไร
ชาวอิรักร่วมไว้อาลัยโซเลมานี
ชาวอิรักหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงแบกแดดของอิรัก เพื่อไว้อาลัยให้การเสียชีวิตของพลตรีโซเลมานี และอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส ผู้บัญชาการกลุ่มคาทาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ในอิรัก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน หลังจากที่ทั้งคู่เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ร่วมไว้อาลัยให้กับพลตรีโซเลมานีในกรุงแบกแดดได้โบกธงอิรักและธงของกลุ่มติดอาวุธ พร้อมตะโกนว่า “อเมริกาต้องตาย” จากนั้นขบวนศพก็เคลื่อนไปตามถนนต่างๆ ในกรุงแบกแดด โดยมีคนถือภาพของพลตรีโซเลมานีและอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ศพของพลตรีโซเลมานีและชาวอิหร่านที่เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศครั้งนี้จะถูกส่งกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่อิหร่านและฝังที่บ้านเกิดในช่วงเย็นของวันนี้ (4 ธ.ค.)
อย่างไรก็ตาม ชาวอิรักบางคนก็ออกมาร่วมเฉลิมฉลองการเสียชีวิตของพลตรีโซเลมานี เนื่องจากเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการการปราบปรามอย่างรุนแรงใส่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติที่อิรักในช่วงหลายเดือนก่อน
ท่าทีของรัฐบาลอิรักและอิหร่าน
อยาตุลเลาะห์คาเมเนอีได้ออกแถลงการณ์หลังมีข่าวการเสียชีวิตของพลตรีโซเลมานีว่า “เขาจากไปหาพระเจ้าไม่ได้ทำให้เส้นทางหรือภารกิจของเขาสิ้นสุดไปด้วย แต่การแก้แค้นอย่างรุนแรงรออาชญากรที่เอาเลือดเนื้อของเขาและผู้กล้าคนอื่นๆ ไปจากเรา”
ด้านรัฐสภาอิรักก็เรียกประชุมฉุกเฉินในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ อเดล อับดุล มาห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรักกล่าวว่า การโจมตีของสหรัฐฯ เป็น “การละเมิดอธิปไตยของอิรักอย่างหน้าไม่อาย และทำลายศักดิ์ศรีของประเทศอย่างโจ่งแจ้ง”
พลตรีกัสซิม โซเลมานีคือใคร?
พลตรีกัสซิม โซเลมานีเป็นบุคคลสำคัญมากในรัฐบาลอิหร่าน และเขายังถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของอิหร่านอีกด้วย นับตั้งแต่ปี 1998 พลตรีกัสซิม โซเลมานีขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ กองกำลังสำคัญของกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการลับในต่างประเทศ โดยกองกำลังกุดส์ของเขาขึ้นตรงกับอยาตุลเลาะห์คาเมเนอี
พลตรีโซเลมานีมีบทบาทสำคัญในการวางแผนทางการทหารทั่วตะวันออกกลาง อิหร่านได้เปิดเผยว่า กองกำลังกุดส์มีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำกองกำลังที่จงรักภักดีกับบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน รวมถึงกองกำลังติดอาวุธมุสลิมชีอะห์หลายพันคนในต่อสู้ขับไล่กลุ่มก่อการร้ายไอเอสในอิรัก
รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาว่ากองกำลังกุดส์เป็น “กลไกพื้นฐานของอิหร่านในการฝึกฝนและสนับสนุน” กลุ่มก่อการร้ายทั่วตะวันออกกลาง เช่น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มญิฮาดอิสลามิกปาเลสไตน์ ด้วยการให้เงินทุน ช่วยฝึกกองกำลังให้อาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ
ที่มา : BBC, CNN, Al Jazeera