นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค. 2562) ธ.ก.ส. จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวปี 2562/2563 สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวจำนวน 4.57 ล้านครัวเรือน วงเงินรวม 26,000 ล้านบาท โดยจะช่วยเหลืออัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ แต่จะต้องไม่เป็นเกษตรกรที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากปัญหาภัยแล้งที่ผ่านมาที่มีจำนวน 1.9 ล้านไร่
พร้อมทั้งให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 2562/2563 รวม 1 ล้านตัน วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท โดยช่วยเหลือในอัตราตันละ 1,500 บาท เพื่อให้เกษตรกรชะลอการขายข้าวออกสู่ตลาด ลดปัญหาราคาข้าวตกต่ำในช่วงฤดูการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นเกษตรกรจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รวมถึงสินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และวิสาหกิจชุมชน วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ผ่อนชำระไม่เกิน 15 เดือน
"สินเชื่อทั้งหมดจะใช้เงินของ ธ.ก.ส. เป็นผู้ดำเนินการ แต่รัฐบาลจะชดเชยเงินช่วยเหลือหลังจากนี้ ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เพราะหากเกษตรกรทยอยนำข้าวมาขายในตลาดในเวลาที่ต่างกัน ก็จะทำให้ราคาข้าวไม่ตกได้" นายอภิรมย์ กล่าว
จ่ายประกันรายได้ข้าว-ยาง-ปาล์ม-มัน แล้ว 5 หมื่นล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายวงเงินการประกันรายได้เกษตรกรทั้งผู้ปลูกข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ขณะนี้ มีการจ่ายเงินไปแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการจ่ายเงินในโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตผู้ปลูกข้าวนาปี 2562/2563 จำนวน 23,000 ล้านบาท และอีก 27,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการประกันรายได้พืชทั้ง 4 ชนิด ซึ่งวงเงินรวมของการประกันรายได้ทั้งหมดที่จะต้องใช้ ครม.เคยอนุมัติไว้ที่ 82,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. ยังพร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด หากมติ ครม. ให้มีการประกันรายได้เหมือนพืชประเภทอื่นเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: