ไม่พบผลการค้นหา
สิงคโปร์เดินหน้ามาตรการเข้มจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน หากฝ่าฝืนต้องเจอโทษปรับ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์

'ลอเรนซ์ หว่อง' รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวจะยกเว้นให้กับผู้ที่ออกกำลังกายที่ต้องใช้พลังมากเช่นการวิ่ง และเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยสามารถถอดหน้ากากได้เมื่อออกกำลังกายแต่ก็ต้องสวมหน้ากากหลังจากนั้น และข้อกำหนดนี้มีผลบังคับใช้ทันที ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์หากเป็นการละเมิดกฎครั้งแรก และถ้าทำผิดครั้งที่สองจะปรับ 1,000 ดอลลาร์ กรณีที่รุนแรงจะต้องถูกดำเนินคดีในศาล ชาวต่างชาติที่พำนักในสิงคโปร์ที่ละเมิดกฎอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงานหรือสถานะผู้พำนักถาวร 

อย่างไรก็ตาม นายหว่องระบุว่าข้อกำหนดให้ทุกคนสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้านไม่ได้หมายความว่าเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนออกจากบ้านแต่อย่างใด คำแนะนำสวมหน้ากากอยู่บนพื้นฐานคำแนะนำล่าสุดด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ และการดำเนินการแจกจ่ายหน้ากากที่สามารถใช้ซ้ำได้ให้กับชาวสิงคโปร์ก็เสร็จสิ้นแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ 

ปัจจุบันมีแรงงานสิงคโปร์ประมาณร้อยละ 20 รวมถึงแรงงานต่างชาติที่ยังต้องเดินทางไปทำงานเนื่องจากอยู่ในภาคบริการที่จำเป็น แต่รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า รัฐบาลจะพิจารณารายชื่อบริษัทต่างๆ ที่ถูกจัดว่าเป็นบริการจำเป็นและปรับให้เข้มงวดขึ้น เพื่อหวังลดจำนวนประชาชนที่ต้องเดินทางไปกลับเพื่อทำงานลง โดยจะมีการประกาศรายละเอียดอีกครั้งเมื่อได้ข้อสรุปสุดท้าย

ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ไม่สนับสนุนให้ประชาชนสวมหน้ากาก โดยระบุว่าหน้ากากอนามัยควรถูกสงวนไว้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ แต่ก็เปลี่ยนจุดยืนเมื่อช่วงต้นเดือนหลังงานวิจัยใหม่ชี้ว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการสามารถแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็น 3,252 ราย และเสียชีวิตแล้ว 10 ราย  


อ้างอิง CNA/The Straits Times/SCMP