17 เม.ย. เว็บไซต์ worldometes รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกว่า มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 145,521 ราย เพิ่มขึ้นจากวานนี้ (16 เม.ย.) มากกว่า 7,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 100,000 ราย ทำให้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้ว 2,182,182 ราย

ทั้งนี้ ในสหรัฐฯ ผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดผู้ติดเชื้อแล้ว 677,570 ราย และกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้ออยู่ในรัฐนิวยอร์ก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทะลุ 30,000 ราย โดยสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 34,617 และครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตอยู่ในรัฐนิวยอร์กเช่นกัน

อังกฤษ มีรายงานวานนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,617 ราย ทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 103,093 รายและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13,729 ราย

ทางด้านรัฐบาลอังกฤษก็ออกมาประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศไปอีก 3 สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่าอังกฤษกำลังจะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการระบาดสูงสุดและหากมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมในเร็วๆ นี้อาจจะทำให้อังกฤษเข้าสู่ช่วงของการระบาดสูงสุดในรอบที่สองอีกครั้งและจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น

สเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป โดยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 184,948 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในสเปนนั้นมีมากถึง 19,315 ราย ซึ่งทางการสเปนออกมากล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจริงนั้นอาจมีจำนวนมากกว่าที่ทางการรายงาน

เฟอร์นันโด ไซมอน รัฐมนตรีสาธาณสุขของสเปนกล่าวว่า "จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงนั้นยากที่จะรู้ได้ "

ทางด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองมาดริดและคาตาโลเนียก็กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นอาจมีมากกว่าหลายพันคนจากตัวเลขที่ทางการสเปนรายงาน เนื่องจากผู้เสียชีวิตนอกเหนือจากโรงพยาบาลนั้นไม่ถูกนับรวมกับตัวเลขที่ทางการรายงาน โดยทางเมืองมาดริกระบุว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 ราย แต่ตัวเลขที่ทางการรายงานนั้นมีเพียง 6,877ราย และในแคว้นคาตาโลเนีย ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่า 7,000 ราย ขณะที่ทางการสเปนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตมีเพียง 3,855 ราย

อย่างไรก็ตาม หากสเปนปรับการนับจำนวนผู้เสียชีวิต จะทำให้สเปนมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่าอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อมากที่สุดในยุโรปในขณะนี้

ที่มา CNA / Euronews