ไม่พบผลการค้นหา
มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้มีการปิดโรงเรียนบางส่วนหรือทั้งหมด แต่ล่าสุด หลายประเทศก็ทยอยเปิดเรียนอีกครั้ง พร้อมใช้มาตรการลดความเสี่ยงแพร่เชื้อตั้งแต่เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ไปจนถึงการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะนักเรียน

องค์การยูเนสโกระบุว่า การปิดสถานศึกษาอันเป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อนักเรียนเกือบร้อยละ 70 ของประชากรนักเรียนทั่วโลกทั้งหมด

โดยหลังจากสถานการณ์การระบาดดูจะบรรเทาความรุนแรงลงในหลายประเทศ หนึ่งในประเด็นที่มีการถกเถียงกันคือ ควรมีการเปิดเรียนอีกครั้งหรือไม่ ท่ามกลางเสียงสะท้อนถึงปัญหาความไม่สะดวกในการเรียนผ่านระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพในการเรียนการสอน ความไม่สะดวกของผู้ปกครอง หรือความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ทำให้โอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ของเด็กแตกต่างกัน ล่าสุด ก็มีหลายประเทศที่ได้เริ่มทยอยเปิดเรียนอีกครั้ง  


จีน 

ทางการได้ประกาศล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดของไวรัส เมื่อปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และไม่นานหลังจากนั้นก็มีอีก 15 เมืองที่ดำเนินรอยตาม โดยในช่วงที่การระบาดรุนแรงสุดมาตรการล็อกดาวน์ของจีนครอบคลุมพื้นที่ 20 มณฑลและภูมิภาค ส่งผลให้เด็กนักเรียน 200 ล้านคน ต้องย้ายไปเรียนออนไลน์ในช่วงเดือน ก.พ.

นักเรียนในเซี่ยงไฮ้_AFP

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. จีนไม่พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาด และก็ได้ค่อยๆ คลายมาตรการล็อกดาวน์ในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานว่าแม้จนถึงต้นเดือนเม.ย.

แม้จะมีการเปิดโรงเรียนใน 9 มณฑลของจีนแผ่นดินใหญ่ให้กับนักเรียนมัธยมชั้นปีสุดท้าย แต่โรงเรียนในพื้นที่อื่นๆ ยังคงปิด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย. นักเรียนมัธยมปลายในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่างโจว ถึงได้กลับเป็นเรียนที่โรงเรียนอีกครั้งเพื่อเตรียมการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยรายงานระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนกำหนดให้ต้องมีการวัดไข้นักเรียนที่ประตูทางเข้าโรงเรียน และนักเรียนยังต้องแสดงคิวอาร์โค้ดสีเขียวจากระบบคิวอาร์โค้ดสุขภาพบนสมาร์ตโฟนเพื่อยืนยันว่ามีสุขภาพแข็งแรง 

ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น ก็ได้เริ่มเปิดเรียนแล้วเช่นกันเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยนักเรียนมัธยมปลายประมาณ 57,000 คน ได้กลับไปเรียนที่โรงเรียนเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ท่ามกลางมาตรการป้องกันเข้ม ทั้งกำหนดให้นักเรียนต้องเดินเข้าแถวเรียงหนึ่งเพื่อผ่านเครื่องวัดอุณหภูมิ นักเรียนที่อุณหภูมิร่างกายสูงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน โต๊ะนักเรียนต้องเว้นระยะห่างกัน 1 เมตร

เจ้าหน้าที่เมืองอู่ฮั่นเผยว่า นักเรียน ครูและพนักงานในโรงเรียนทุกคนจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อนกลับมายังโรงเรียน ขณะเดียวกันก็มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออาคารสถานที่ 


ไต้หวัน

ไต้หวันซึ่งได้รับเสียงชื่นชมในการจัดการควบคุมการระบาดของไวรัสได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ก็ได้เปิดเรียนเมื่อวันที่ 25 ก.พ. โดยรายงานระบุว่า ความจริงแล้วไต้หวันไม่เคยประกาศปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ แต่ขยายเวลาช่วงปิดเทอมฤดูหนาวออกไป 10 วัน เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้ออาคารสถานต่างๆ ในโรงเรียน แจกจ่ายเวชภัณฑ์ และจัดเตรียมระเบียบปฏิบัติใหม่สำหรับโรงเรียนที่มีผู้ติดเชื้อยืนยัน

ขณะนี้ โรงเรียนในไต้หวันจะมีการตรวจวัดไข้ บางแห่งก็จะติดตั้งฉากกั้นพลาสติดบนโต๊ะนักเรียน ซึ่งถือเป็นมาตรการความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามา  


ญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายกรัฐมนตรี 'ชินโซ อาเบะ' ได้ขอให้โรงเรียนประถมศึกษา มัธยมต้นและปลายทั่วประเทศปิดการเรียนการสอนนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. จนกว่าจะเริ่มปีการศึกใหม่ในช่วงต้นเดือน เม.ย. เพื่อป้องกันการรแพร่เชื้อไวรัส

แต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายกรัฐมนตรีอาเบะก็ประกาศว่าจะไม่ขยายคำแนะนำให้ปิดโรงเรียน โดยปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลท้องถิ่นว่าจะเปิดหรือไม่ หรือจะเปิดเมื่อไร ซึ่งพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ของตัวเอง 

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้ออกแนวทางปฏิบัติสำหรับการเปิดเรียนอีกครั้ง ซึ่งครอบคลุมถึงการเปิดหน้าต่างระบายอากาศในชั้นเรียน รักษาระยะห่างทางกายภาพ ตรวจวัดอุณหภูมิทุกวันและสวมหน้ากากอนามัย โดยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นบอกว่า สภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกัน จะมีประสิทธิภาพมากกว่าหากประเมินจากสถานการณ์จริงในพื้นที่ แทนที่จะสั่งการเป็นมาตรการหรือนโยบายทั่วประเทศ

ญี่ปุ่น_รอยเตอร์

ข้อมูลจากยูเนสโกชี้ว่า จนถึงตอนนี้มีโรงเรียนในญี่ปุ่นได้เปิดเรียนอีกครั้งแล้วประมาณร้อยละ 40 ซึ่งรายงานระบุว่าการให้อำนาจทางการท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องเปิดเรียน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย. หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น โดยการประกาศดังกล่าวให้อำนาจผู้นำของ 47 จังหวัดในการขอให้มีการปิดโรงเรียนและขอให้ประชาชนอยู่บ้าน  


เดนมาร์ก

เดนมาร์กลายเป็นชาติแรกในหมู่ประเทศที่ประกาศล็อกดาวน์ในยุโรปที่ได้เปิดเรียนใหม่อีกครั้ง โดยสถานรับดูแลเด็ก โรงเรียนอนุบาลและประถม ของเดนมาร์กกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย. ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเมืองของเดนมาร์กหลังจากที่อัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง 

AFP - เดนมาร์ก โควิด นักเรียน โรงเรียน โคเปนเฮเกน

โดย The New York Times รายงานว่า ในมุมมองด้านเศรษฐกิจ การเปิดเรียนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างได้สามารถพุ่งเป้าให้ความสนใจกับงานได้อย่างเต็มที่ เพราะการสอนหนังสือหรือดูแลลูกที่บ้านทุกวันทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเรียนอีกครั้งและตั้งกลุ่มบนเฟซบุ๊กเพื่อคัดค้าน เพราะกังวลว่าลูกๆ ของพวกเขาจะกลายเป็นผู้ที่ต้องเสียสละเพื่อรักษาเศรษฐกิจของเดนมาร์กให้เดินหน้าต่อ

เมื่อโรงเรียนในเดนมาร์กกลับมาเปิดเรียนอีกครั้ง ก็มีมาตรการลดความเสี่ยงในการการแพร่เชื้อ เช่น การจัดโต๊ะให้ห่างกัน 2 เมตร เพื่อเป็นการปฏิบัติตามแนวทางรักษาระยะห่างทางสังคมที่ยังใช้อยู่    


นอร์เวย์ 

นอร์เวย์ประกาศปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 12 มี.ค. แต่ก็ไม่ต่างกับเดนมาร์กตรงที่ตัดสินใจให้เด็กเล็กกลับไปเรียนที่โรงเรียนก่อนเด็กโต หลังอัตราการระบาดของเชื้อไวรัสลดลง โดยเปิดโรงเรียนอนุบาลอีกครั้งเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ก่อนตามด้วยการเปิดโรงเรียนประถม เกรด 1-4 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 

นายกรัฐมนตรี 'เออร์นา โซลเบิร์ก' ของนอร์เวย์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย. ว่าทุกฝ่ายได้ร่วมกันควบคุมไวรัส ดังนั้นนอร์เวย์จึงสามารถค่อยๆ เปิดกิจกรรมทางสังคมได้ทีละนิด โดยเพื่อสนับสนุนการเว้นระยะทางสังคม รัฐบาลได้ขอให้โรงเรียนแบ่งชั้นเรียนออกเป็นกลุ่ม ไม่เกินกลุ่มละ 15 คน และต้องทำความสะอาดโต๊ะเรียนทุกวัน รวมถึงยังมีมาตรการป้องกันอื่นๆ 


เยอรมนี

โรงเรียนมัธยมปลายในเยอรมนีกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งเมื่อเดือนวันที่ 20 เม.ย. เพื่อให้นักเรียนมัธยมปลายได้เตรียมสอบจบการศึกษา โดยก่อนหน้านี้โรงเรียนและเดย์แคร์เกือบทั้งหมดทั่ว 16 รัฐของเยอรมนีได้ปิดทำการเมื่องช่วงกลางเดือนมี.ค.

ขณะที่รายงานระบุว่า การตัดสินใจว่าจะเปิดโรงเรียนอย่างไรและควรมีมาตรการป้องกันอย่างไรบ้างเป็นความรับผิดชอบของแต่ละรัฐ แต่อย่างน้อยต้องจัดโต๊ะให้ห่างกัน 1.5 เมตร รวมถึงตัดตั้งอ่างล้างมือและสบู่ฆ่าเชื้อให้เพียงพอ 


นิวซีแลนด์ 

โรงเรียนในนิวซีแลนด์กลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ค. หลังต้องเรียนที่บ้านเป็นเวลา 2 เดือนจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการระบุว่า สารที่รัฐบาลต้องการส่งออกไปคือ มีความปลอดภัยที่จะส่งเด็กๆ กลับไปยังโรงเรียนและพยายามเรียนให้ทันความรู้ต่างๆ ที่อาจหายไประหว่างช่วงล็อกดาวน์ 

นิวซีแลนด์_AFP

นิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศที่ได้รับเสียงชื่นชมจากการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. แม้ข้อห้ามเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ส่วนใหญ่จะสิ้นสุดลงเมื่อวันพฤหัสบดี 14 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็มีการต่อเวลาพิเศษให้กับโรงเรียน เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะใช้ระเบียบด้านการรักษาสุขอนามัยในหมู่เด็กเล็ก

รายงานระบุว่าแทนที่ผู้ปกครองจะเดินไปส่งลูกๆ ที่ห้องเรียน ทางโรงเรียนได้กำหนดโซน “kiss and go” ให้พ่อแม่ส่งลูก ส่วนศูนย์ดูแลเด็กก็จะมีการบันทึกข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็นสำหรับการติดตามผู้สัมผัสเชื้อ

ขณะที่ผู้ปกครองบางคนบอกว่า แม้จะกังวลเรื่องสุขภาพของลูกๆ อยู่บ้าง แต่ก็เชื่อในข้อมูลที่ได้รับจากรัฐบาล ว่าคงไม่เปิดเรียนอีกครั้งหากยังมีความเสี่ยงต่อเด็กๆ 

อ้างอิง World Economic Forum / sky news / THE LOCAL dk