ไม่พบผลการค้นหา
'จิรายุ' เฉ่ง ปตท.หากินกับคนไทย ขายแอลกอฮอล์ลิตรละ 110บาท พร้อมเรียกร้อง ก.ล.ต.พิจารณาชะลอขายPTTOR ให้รอผลการตรวจสอบการทุจริตก่อน จวกไม่ควรฉวยโอกาสคิดแต่จะขายหุ้นค้ากำไรช่วงวิกฤตโควิด-19

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึง กรณีที่นายชาญศิลป์ ตรีนุชยกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ชี้ชวนประชาชนโดยจะออกขายหุ้นของบริษัท ปตท.โออาร์ในหุ้นราคา IPO นั้น ซึ่งขณะนี้ทั้ง PTT และ PTTOR อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบการดำเนินงานในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง ปตท.พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของกรรมาธิการ หรือไม่ เช่นระบุด้วยตัวเองว่า ”ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐอันเป็นเงินภาษีของประชาชนแต่อย่างใด” กมธ.ไม่มีสิทธิตรวจสอบ

ซึ่งตนเห็นว่า หากปตท.โปร่งใสจริงจะกลัวอะไร ที่สำคัญหากไม่ได้ ค้ากำไรบนผืนแผ่นดินไทยและไม่ได้ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินนี้ไม่ต้องให้ กระทรวงคลังใช้เงินประชาชนไปถือหุ้น ก็ต้องเปลี่ยนชื่อและต้องไม่ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินไทย เมื่อนั้นคนไทยคงไม่รู้สึกอะไร แต่นี่ยังมาอวดอ้างว่าตนไม่ได้ใช้ภาษีของประชาชน ก็ขอให้รอผลการตรวจสอบการทุจริตเสียก่อนถึงค่อยขายหุ้นทำกำไร

ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.เนื่องจาก ปตท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบการบริหารงานในชุดของนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานใหญ่ ปตท. ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ในช่วงปี2559-2562

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า เพราะเมื่อคณะกรรมาธิการรัฐวิสาหกิจฯ ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ของ ปตท.หลายประเด็น ในช่วงที่ผ่านมา ว่าชอบด้วยกฎหมายมีการทุจริตหรือไม่ตั้งแต่ปลายปี2559 ปตท.กลับตอบกรรมาธิการด้วยเอกสารและอาจเบี่ยงเบนหลายประเด็นอาทิอ้างว่า 1.ตนเองไม่ใช่รัฐวิสาหกิจและไม่ได้ใช้เงินภาษีของประชาชน 2.อ้างด้วยตัวเองว่าตนเองโปร่งใส 3.อ้างว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลให้ กมธ.ได้เพราะมีกฎระเบียบ ก.ล.ต.ที่ไม่ให้บริษัทมหาชนเปิดเผยข้อมูลได้ทั้งๆที่บริษัทจะขายหุ้นกลับไม่เปิดเผยและย้อนแย้งกับสิ่งที่ปตท.อ้าง

ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ทำหนังสือสอบถามไปยังประธานรัฐสภา ,เลขาธิการรัฐสภา ถึงอำนาจหน้าที่กมธ.ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยืนยันแล้วว่า ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องได้รับการตรวจสอบจาก กมธ. ซึ่งขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีโรคระบาดจึงรอให้ผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปก่อน แต่ปตท.ก็ไม่ควรฉวยโอกาสเช่นนี้คิดแต่จะขายหุ้นค้ากำไร และที่สำคัญต้องไม่ลืมรากของตัวเอง ที่ใช้ทรัพยากรของชาติ มาตั้งแต่เป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย มาทำกำไรเป็นแสนๆล้านอย่างไม่ลืมหูลืมตาในขณะนี้

ที่สำคัญ ก.ล.ต.ก็ตอบมาแล้วว่าปตท.ต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนทราบก่อนการซื้อขาย ไม่มีกฎระเบียบข้อใดที่ให้ปตท.ไม่ต้องตอบประชาชน ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ปตท.ชี้แจงกับกมธ.ส่อให้เห็นเจตนาไม่บริสุทธิ์หรือไม่

"ขอเรียกร้องให้ ก.ล.ต.พิจารณาชะลอการซื้อขายหุ้น ของ PTTOR เพราะที่ผ่านมาปตท.ชี้แจงเป็นเอกสารว่าบริษัทของตนเองไม่ได้ใช้เงินภาษีของประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นการดูถูกประชาชนประกอบกับธุรกิจพลังงานของประเทศไม่ควรทำกำไรกับประชาชนเพียงอย่างเดียว" นายจิรายุ ระบุ

นายจิรายุกล่าวอีกว่า สถานการณ์โรคระบาดในขณะนี้ ปตท.ควรช่วยเหลือสังคมด้วยการลดราคาน้ำมันหรือราคาก๊าซเอ็นจีวี ให้มากกว่านี้ แต่ ปตท.ยังคิดแต่แสวงหากำไรจนประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว ถึงขนาดต้องไปเข้าแถวซื้อแอลกอฮอล์จากปั๊มปตท.ที่มีราคาแพงมหาโหดถึง 110 บาทต่อลิตร ในขณะที่น้ำมันของปตท.ลิตรละไม่ถึง 20 บาท ใช่ว่าจะแจกแอลกอฮอล์ให้กับประชาชนฟรี เพื่อลดการแพร่ระบาด และยอมขาดทุนกำไรของตนเองที่มีปีละเป็นแสนๆล้าน ตนเชื่อว่าขนหน้าแข้งไม่ร่วง วันนี้ ปตท.จะเสวยสุขจากกำไรในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนทั้งที่ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินนี้อย่างเดียวไม่ได้

ทั้งนี้ตนขอขอบคุณสื่อมวลชนบางสำนักที่ช่วยตรวจสอบ ปตท. ในเชิงลึก อีกทั้งส่งข้อมูลช่วง ที่ประเทศยังอยู่ภายใต้คสช.ในปี2559-2562มาเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมา กมธ.ตรวจสอบร่วมกับหลายหน่วยงานพบความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง และจะนำเข้าสู่การพิจารณาและหากมีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้จะส่งเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :