พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พิจารณาแผนฟื้นฟูเร่งด่วน บริษัทการบินไทย จำกัด ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ โดยช่วงนี้อยากให้การบินไทย ไปทำความเข้าใจกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงพนักงาน และสหภาพแรงงาน เพราะนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะให้การบินไทยได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้การดำเนินงานขององค์กรดีขึ้น หลังจากได้ให้โอกาสตลอด 5 ปีดำเนินการทำแผนฟื้นฟูมาแล้ว

โดยแผนที่มีการเสนอขึ้นมาครั้งล่าสุด จะประกอบด้วย 10 แนวทางหลัก ซึ่งจะมีเรื่องของการปรับโครงสร้างการบริหารในการบินไทยใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นก็ต้องติดตามจะทำความเข้าใจ เพื่อดำเนินการฟื้นฟูกิจการอย่างไร ทั้งนี้อยากเห็นภาพของความร่วมมือ ความเข้าใจ และไม่ใช่วิธีการอื่น ทั้งนี้รัฐบาลพยายามดูแลทุกรัฐวิสาหกิจ ให้มีการดำเนินการให้ดีที่สุด 

"การจะให้เงินกู้ต่างๆ ไปใช้ ก็ใช่ว่าให้ไปแล้วจะใช้ให้หมด แล้วทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นครั้งนี้ ท่านต้องปรับโครงสร้างของท่านทั้งหมด อันนี้ก็ขอเรียนให้ทราบด้วย ผมไม่ได้อยากไปก้าวล่วงอำนาจของใครทั้งสิ้น เพราะก็มีกฎหมายอยู่ วันนี้ก็ต้องหามาตรการของความเหมาะสม

"ผมให้เวลาแก้ไขมาแล้ว 5 ปี ก็ยังไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่รัฐบาลต้องดำเนินการให้ได้ตามนั้น จึงต้องขอความร่วมมือจากบรรดาสหภาพต่างๆ ด้วย เพราะนั่นคือความเป็นความตายของท่าน จึงขอฝากไว้ด้วย ขอทำความเข้าใจไว้ด้วยนะครับ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดปัญหาโควิด-19 นายกรัฐมนตรีประเมินว่า อาจจะนานยาวไปประมาณ 6-9 เดือนนับจากนี้ ดังนั้นจึงต้องเตรียมมาตรการรองรับทุกอย่างไว้ รวมถึงทุกคนต้องปรับใช้วิถีชีวิตปกติแบบใหม่ หรือ New Normal ซึ่งจะถือเป็นแนวปฎิบัติต่อไปในอนาคต โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเองได้เดินสายพบภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อรับข้อมูลผลกระทบที่ภาคธุรกิจได้รับโดยตรง และอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาขับเคลื่อนงานของแต่ละส่วนในการให้การดูแล แต่ต้องขอเวลาในการขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะสินเชื้อดอกเบี้ยต่ำหรือ ซอฟโลน 

ด้านความคืบหน้าหลังส่งจดหมายถึงเศรษฐีชั้นนำ 20 รายของประเทศ ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ได้รับจดหมายตอบกลับครบทุกคนแล้ว โดยมีทั้งการให้ข้อเสนอแนะ และการแก้ไขปัญหา รวมถึงความคืบหน้าการดูแลประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยเศรษฐีทั้ง 20 คน จะให้ความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และดูแลประชาชนทั่วประเทศ และครอบคลุมทุกกลุ่ม ดังนั้นจึงขอชื่นชมที่มาร่วมมือกับรัฐบาลในการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ในส่วนของรัฐบาลก็มองหาแนวทางที่จะไปช่วยเหลือ ทางภาคธุรกิจมีความต้อง