นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นใหม่ให้เเก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO (Initial Public Offering) ของบริษัทในครั้งนี้ นอกจากจะมีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่สูงที่สุดในโลก นับตั้งแต่ปี 2550
ทั้งนี้ บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เสนอขายหุ้น IPO ในราคา 40 - 43 บาท/หุ้น จำนวนรวมไม่เกิน 1,860.1 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 74,404 - 79,984 ล้านบาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค. และ 3 ก.พ. 2563 นี้ โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งแรก (Frist Day Trade) ในช่วงเดือน ก.พ. 2563 นี้
นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้น IPO ของ CRC ครั้งนี้ นับเป็นการเสนอขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย และจะเป็นบริษัทที่มีหุ้นในขนาดใหญ่ที่สุด 15 ลำดับแรกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนทั้งหมด 11 รายลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้นกับ CRC เพื่อเป็นนักลงทุนหลัก หรือ Cornerstone Investors โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศจำนวน 6 ราย รวมประมาณ 186 ล้านหุ้น และนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศจำนวน 5 ราย รวมประมาณ 373 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นจำนวนหุ้นรวม กว่า 500 ล้านหุ้น หรือประมาณร้อยละ 60 ของจำนวนหุ้นเสนอขายประชาชนในครั้งนี้
CRC กำไรหมื่นล้าน จาก 3 ประเทศ
นายญนน์ ชี้ว่า ในปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 206,575 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 8.3 ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 10,033 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 19 ต่อปี
ขณะที่ ตัวเลขรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ก.ย. 2563) อยู่ที่ 159,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,298 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
เมื่อแบ่งกิจการออกเป็นรายประเทศ CRC เข้าไปทำธุรกิจในอิตาลี คือห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ส่วนที่เวียดนาม คือร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เหงียนคิม ที่มีอัตราเติบโตร้อยละ 11.9 และ 22.9 ตามลำดับ และด้วยยอดขาย 15,643 ล้านบาท และ 25,406 ล้านบาท ตามลำดับ ในปี 2561
เศรษฐกิจโลกไม่กระทบขยายตัวต่างประเทศ
แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่ นายนิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การเติบโตของห้างสรรพสินค้าในอิตาลียังเป็นไปได้ด้วยดี เนื่องจากอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง คือ กลุ่มธุรกิจลักซ์ชัวรี ที่เติบโตในหลักร้อยละ 20 ต่อปี ทั่วโลก และ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ขณะที่ฝั่งเวียดนาม บริษัทเติบโตได้ดีอยู่แล้วจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่องและคาดว่าไฮเปอร์มาร์เก็ต "GO!" ซึ่งเป็นการปรับภาพลักษณ์จากบิ๊กซีจะครอบคลุมทุกจังหวัดของเวียดนามได้ในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ มีสอบถามนายญนน์ถึงกรณีเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย หาผู้ซื้อกิจการนั้นเซ็นทรัลฯ มีความสนใจหรือไม่ เขาตอบว่า ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ แต่ย้ำกับนักลงทุนว่าแม้จะไม่มีเทสโก้ โลตัส เซ็นทรัล รีเทล ก็ยังเติบโตได้ดี