วันที่ 26 ธันวาคม 2566 นางสาวศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ฝุ่นควันพิษทางอากาศ หรือ PM 2.5 ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนรวมทั้งภาคธุรกิจทั้งการท่องเที่ยว การค้าขายในพื้นที่ประสบปัญหาหนักมาก ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานไม่ต่ำกว่าสิบปีอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มของสถานการณ์มลพิษทางอากาศมีความรุนแรงมากขึ้น ในขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศเป็นพิษต่างได้รับผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายและตกอยู่ในภาวะอันตรายทั้งในทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีที่มีครรภ์ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ทั้งในด้านงบประมาณในการรักษาพยาบาลความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ภาพลักษณ์ของประเทศที่สะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดการของภาครัฐเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของประชาชนและการจัดการมลพิษ
นางสาวศรีโสภา กล่าวด้วยว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายนทุกปี ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือจะต้องประสบกับปัญหาฝุ่นทางอากาศ หรือ PM 2.5 ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างรุนแรง จากการประเมินของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าในปี 2562 จังหวัดเชียงใหม่ มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 68,600 ล้านบาทต่อปี มีสัดส่วนทั้งป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและป่วยแอบแฝงมากที่สุด อันดับ 2 จังหวัดเชียงราย 46,000 ล้านบาทต่อปี และอันดับ 3 จังหวัดลำปาง 23,000 ล้านบาทต่อปีซึ่งประมาณการณ์กันว่าในปี 2566 จะมีมูลค่าความเสียหายสูงกว่านี้อย่างแน่นอน
“จากปัญหาที่เกิดขึ้นพรรคเพื่อไทยเร่งดันร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ. .... หรือพ.ร.บ.อากาศสะอาดเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรภายในสมัยประชุมนี้ เพื่อให้มีอาวุธในต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การไปบริหารจัดการรับมือกับปัญหา PM 2.5 ทั้งนี้เนื่องมาจากที่ผ่านมาการบริหารจัดการทำได้ยากมากเพราะไม่มีกฏหมายรองรับส่งผลให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก ดังนั้นพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าหากมี พ.ร.บ.อากาศสะอาดผ่านความเห็นชอบจากสภามีผลบังคับใช้จะช่วยรัฐบาลมีเครื่องมือในการต่อสู้กับ PM 2.5 สามารกปกป้องชีวิตและเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน” นางสาวศรีโสภา กล่าว