ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดชั้นนำจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรพึ่งพาหน้ากากป้องกันฝุ่น N95 ในการป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนา หลังจากที่ชาวสิงคโปร์แห่ซื้อหน้ากากป้องกันฝุ่น N95 ตุนไว้จนเกลี้ยงร้านขายยา เมื่อรับรู้ข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ที่มีต้นตอการระบาดจากเมืองอู่ฮั่นของจีน
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หน้ากากป้องกันเชื้อโรคจะป้องกันไวรัสโคโรนาได้ดีกว่า เพราะหน้ากากกันเชื้อโรคจะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสได้ ใช้งานได้สะดวกกว่า และจะช่วยป้องกันอนุภาคขนาดใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่เข้าสู่ปากและจมูกของผู้สวมใส่ อีกทั้งยังลดการพ่นน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะไปยังผู้อื่น
เลียวยีซิน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า ไม่แนะนำให้ประชาชนทั่วไปใส่หน้ากาก N95 ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้นที่จะใส่ เนื่องจากหน้ากาก N95 ถูกออกแบบมาให้กรองอนุภาคที่อยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาสวมใส่แล้วจะแน่นกว่าหน้ากากกันเชื้อโรคทั่วไป ทำให้หายใจลำบาก
เลียวกล่าวว่า หากสวมหน้ากาก N95 แล้วยังสามารถหายใจได้คล่องดี แสดงว่าสวมใส่ผิดวิธี และไม่มีประโยชน์ในการสวมใส่ เพราะจะไม่ช่วยป้องกันเชื้อโรคแต่อย่างใด
สำนักข่าวเดอะ สเตรทส์ ไทม์สสำรวจร้านขายยา 5 แห่งใน 2 เขตของสิงคโปร์พบว่า 4 ร้านหน้ากาก N95 หมดภายในไม่กี่วัน ขณะที่หน้ากากกันเชื้อโรคหมดใน 3 ร้าน และเมื่อไปเก็บข้อมูลที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง พบว่า ภายในเวลา 20 นาที จะมีอย่างน้อย 5 คนที่ซื้อหน้ากาก N95 แต่มีเพียง 1 คนที่ซื้อหน้ากากกันเชื้อโรค
กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ยังเตือนว่า หากใครป่วยให้สวมหน้ากากกันเชื้อโรคธรรมดา ไม่ต้องใส่หน้ากาก N95 และคนป่วยจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสวมหน้ากากไม่ให้ไอจามกระจายไปหาคนอื่น และไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยเร็ว
นอกจากนี้ ทางการยังเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก รัฐบาลสิงคโปร์ดูแลไม่ให้หน้ากากป้องกันเชื้อโรคขาดตลาดอย่างแน่นอน
ที่มา : The Straits Times, Channel News Asia