ไม่พบผลการค้นหา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษก ศธ. เปิดเผยกรณีข้อเรียกร้องการไว้ทรงผมของนักเรียน เน้นย้ำยกเลิกระเบียบ “ทรงผมนักเรียน” โดยให้สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น โดย รมว.ศธ. คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของผู้เรียน พร้อมส่งเสริมความหลากหลาย

โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้มีการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมถึงออกเป็นหนังสือสั่งการแจ้งเวียน และระบุให้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนก่อนการประกาศใช้ เพื่อความชัดเจนในการกำหนดแนวปฏิบัติ ซึ่งสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามความเหมาะสม

“เมื่อมีการยกเลิกระเบียบฯ ดังกล่าวแล้ว “ทรงผมนักเรียน” จะไม่มีการระบุความสั้นหรือยาวของทรงผมนักเรียนชายและนักเรียนหญิงอีกต่อไป ส่วนการจะกำหนดให้ผู้เรียนไว้ทรงผมรวมถึงแต่งกายแบบไหน ให้เป็นไปตามวิจารณญาณของสถานศึกษา โดยโรงเรียนเปิดช่องทางให้ผู้เรียนได้มีโอกาสร่วมพูดคุยหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกโรงเรียนมีระเบียบที่สร้างขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันในสถานศึกษาอย่างมีความสุขของทุกฝ่าย แต่ต้องควบคู่กับสิทธิมนุษยชนของผู้เรียนด้วย พร้อมฝากเป็นกำลังใจให้คุณครูปฏิบัติหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของระเบียบวินัยอย่างมีคุณธรรม เพราะครูเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาความคิดของผู้เรียน หากหาทางออกร่วมกันจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ซึ่งปัจจุบัน พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิผู้เรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูแลช่วยเหลือและให้คำปรึกษาให้กับผู้เรียนทุกด้าน ซึ่งมีศูนย์เสมาพิทักษ์ที่ขับเคลื่อนกลไกผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) ในทุกพื้นที่ ถึงแม้จะมีมาตรการที่ดูแลผู้เรียนให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม แต่ก็ไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ ทุกอย่างเป็นไปเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนแสดงออกเชิงพฤติกรรมอย่างเหมาะสม มีอิสระภายใต้กรอบระเบียบที่ป้องกันไม่ให้นำไปสู่ความเสียหายทั้งต่อตัวเด็กเองและเกิดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมในวงกว้าง

ทั้งนี้ การยกเลิกระเบียบต่าง ๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับความหลากหลาย ขอยืนยันว่าเราจะร่วมกับทุกภาคส่วนเดินหน้า “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และเติบโตสู่ก้าวที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” โฆษก ศธ. กล่าว