ไม่พบผลการค้นหา
‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ แถลงตั้งรัฐบาลชื่นมื่น ตั้งต้น 212 เสียง มั่นใจดึงเสียงเพิ่มได้แน่นอน ให้คำมั่น ครม.นัดแรกเคาะประชามติแก้ รธน.จัดตั้ง ส.ส.ร. เตรียมเปิดแถลงดึงเสียงพรรคอื่นร่วมตั้งรัฐบาลไร้ 'ก้าวไกล' - 'ชลน่าน' ยันไม่มี 2 ลุง ด้าน 'อนุทิน' เผยถอนฟ้อง 'เศรษฐา' ค้านกัญชาเสรี ลั่น 188 เสียงไม่อยู่สมการตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ส.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยแถลงการจัดตั้งรัฐบาล

อนุทินกล่าวว่า ถือเป็นการมาพรรคเพื่อไทยครั้งที่ 2 ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยยืนยันกับพรรคเพื่อไทยว่าเราไม่ขัดข้องในการจัดตั้งรัฐบาลบนหลักการ 3 ประการที่ได้นำเสนอคือ 1.ไม่แตะต้องมาตรา 112 2.ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย 3.รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาล

อนุทินกล่าวว่า วันนี้ได้รับทราบจากพรรคเพื่อไทยว่า 3 แนวทางนี้พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องกันในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไปเพื่อให้การขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อ ให้มีอุปสรรคน้อยที่สุด พรรคภูมิใจไทยให้คำยืนยันว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยมี 212 เสียงแล้ว คือ 141 เสียงของพรรค เพื่อไทยบวก 71 เสียงของภูมิใจไทย ทั้งนี้ เมื่อมีการเชิญพรรคอื่นๆ ตามดุลพินิจของพรรคเพื่อไทยก็จะได้มั่นใจแก่พรรคอื่นๆ ว่าขั้วนี้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

อนุทินกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้รับการยืนยันจากพรรคเพื่อไทยให้มั่นใจว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ พรรคร่วมที่อยู่ในแผนของพรรคเพื่อไทยมี ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งแล้ว ดังนั้น เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ได้รับสัญญาณชัดเจนแล้วก็จะร่วมกันหาเสียงสนับสนุน ทั้งจาก ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งต้องเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ

สำหรับการเสนอชื่อนายกฯนั้น อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยต้องปฏิบัติตามข้อเสนอพรรคเพื่อไทยในการนำเสนอผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯให้ผ่านการคัดเลือกของสมาชิกรัฐสภาตามวันและเวลาที่ประธานรัฐสภาเห็นควรนัดแนะ

ภูมิใจไทย เพื่อไทย อนุทิน ชลน่าน 9929.jpegIMG_9925.jpegภูมิใจไทย เพื่อไทย อนุทิน ชลน่าน 9937.jpeg

ชี้ตั้งรัฐบาลมีข้อจำกัด-รธน.ขวางทางไม่ให้ยึดเสียงประชาชนเป็นหลัก

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้นของสองพรรค จากนี้จะไปหาพรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาลต่อไป สำหรับเหตุการณ์สถานการณ์ขณะนี้ที่ทำให้ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ที่เรามุ่งหวังได้ ทำให้ติดไปทุกด้าน การหันหน้าเข้าหากันในการตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนถือว่าดีที่สุด ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นวาระเร่งด่วนตั้งแต่มีมติ ครม.ให้ทำประชามติจัดตั้ง ส.ส.ร. กรณีถ้าสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร. โดยมี ส.ส.ร.มายกร่างเข้าสู่รัฐสภา ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ปีขึ้นไป 

"การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศไทยมีข้อจำกัด ไม่ได้ยึดถือเอาเสียงประชาชนเป็นหลัก เพราะมีการเลือกนายกฯ ในรัฐสภาต้องอาศัยเสียง สว.ร่วมโหวตด้วย เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ เราไม่ได้รับเสียง สว.และ สส.จากพรรคการเมืองอื่น ที่ประกาศชัดว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล เขาจะไม่ลงคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคใดที่มีพรรคก้าวไกล ดังนั้น ไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นประชาชน ส่วนการจับมือพรรคภูมิใจไทยนั้นก็ได้รับเสียงจากประชาชนมาอันดับที่ 3 พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ถูกแต่งตั้งมา แต่เป็นพรรคการเมืองที่มาจากประชาชนเช่นกัน ดังนั้น เสียงพรรคภูมิใจไทยและพรรรคเพื่อไทยรวมกับพรรคการเมืองอื่นที่รวมเสียงกันเกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าเป็นความเชื่อมั่นของประชาชนในระดับหนึ่ง โอกาสจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยสำเร็จก็มีสูง" นพ.ชลน่าน กล่าว 

เมื่อถามว่าจะจับมือ พรรค2 ลุงโดยให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องตอบตามที่เราได้แถลงไป ในแถลงบอกชัดเจนว่าเราไม่มี 2 ลุง โดย สส. สว.ที่มีการมาสนับสนุนการเลือกนายกฯ เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล เราได้บอกชัดแล้วในแถลงการณ์

IMG_9947.jpegIMG_9946.jpeg

ยังไม่แบ่ง รมต. ย้ำไล่หนูตีงูเห่าเป็นแคมเปญหาเสียง - 'เพื่อไทย' ไม่เคยประกาศเป็นศัตรู

เมื่อถามถึงแคมเปญไล่หนูตีงูเห่าในอดีต และหากการตั้งรัฐบาลครั้งนี้สำเร็จ กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยเคยบริหารจะอยู่ได้กกระทรวงเดิมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรายังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดต่อรองเจรจากระทรวงใด แม้หลายท่านอาจไม่เชื่อ แต่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้มันมีความจำเป็นจริงๆ ที่ทุกคนต้องหันหน้ามาหากันก่อนเพื่อพูดคุยกัน ส่วนการรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยที่มีการหาเสียงกระทบกระทั่งกัน เช่นการรณรงค์ ไล่หนูตีงูเห่านั้น เป็นภาพของการรณรงค์ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง กิจกรรมแต่ละครั้งจัดขึ้นในวัตถุประสงค์นั้นๆ

"เราไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร เราเป็นคู่แข่งกันจริง เทคนิคการหาเสียงต่างฝ่ายต่างมี เราไม่เคยคิดเป็นศัตรูกัน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับใคร แต่ทุกพรรคการเมืองเป็นคู่แข่งกัน ถ้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้ก็ร่วมกันทำ" นพ.ชลน่าน กล่าว 

เผยเตรียมแถลงทาบพรรคการเมืองอื่นร่วมตั้งรัฐบาลในสัปดาห์นี้

ด้าน ภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายที่จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขณะนี้รวมเสียง สส.เกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่เรียกร้องคือเรียกร้องทุกพรรคการเมืองทุกคนสามารถเลือกนายกฯ ได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาล ทั้งสัปดาห์จะเห็นการจับมือตั้งรัฐบาลร่วมทุกวัน วิกฤตปัจจุบันมีเรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลมีภารกิจ 3 ด้าน ส่วนที่เราจะให้ทุกฝ่ายร่วมเลือกนายกฯ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยคลี่คลายประเทศ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม โดยแถลงการณ์ไม่ได้ปิดกั้นในการเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีจากนี้พรรคการเมืองใดจะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลคงได้เห็นตลอดทั้งสัปดาห์ 

"เราตัดสินใจอย่างไรต้องรับผิดชอบต่อประชาชนที่เลือกเรามา และต้องคำนึงถึงความร่วมมือของทุกพรรคการเมืองที่เลือกเรามา" ภูมิธรรม กล่าว

IMG_9956.jpegIMG_9955.jpeg

'อนุทิน' เผยถอนฟ้อง 'เศรษฐา' ค้านกัญชาเสรี ลั่น 188 เสียงไม่อยู่สมการตั้งรัฐบาล

ถามว่าการจับมือกับพรรคเพื่อไทยจะมีลุงหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เรามี 3 เงื่อนไขได้แจ้งกับพรรคเพื่อไทยแล้ว เป็นการตัดสินใจกับพรรคเพื่อไทย อีกทั้งการพูดอะไรที่ผูกมัดตัวเองเกินไปอาจจะถึงทาตันได้ โดยวันนี้เอาบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก มั่นใจจะหาทางออกได้ 

"คำว่า 188 เสียงไม่เคยมีอยู่ในสมการในการจัดตั้งรัฐบาล" อนุทินกล่าวและว่า เรื่องที่มีการฟ้อง เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยที่เคยหาเสียงคัดค้านเรื่องกัญชาเสรี นั้นพรรคภูมิใจไทยได้ถอนฟ้องไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จับมือตั้งนายกฯ ตั้งรัฐบาลจนสุดทาง อนุทิน กล่าวว่า วันนี้เราเอาบ้านเมืองประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ตนนำสส. 71 เสียงมาบวก เป็น 212 กับพรรคเพื่อไทย

คำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย 

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ได้อ่านคำแถลงร่วมตั้งรัฐบาลของ 2พรรคกาเมืองว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว 

• รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้ มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น  

• เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤตรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ 

พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้ 

1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ

2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง ส.ส.ร.

3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง

4. จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 

5. การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน 

หลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้ 

เพื่อไทย _9935.jpegเพื่อไทย ภูมิใจไทย G_9934.jpegเพื่อไทย _9935.jpeg


IMG_9957.jpeg