วานนี้ (16 ก.พ.2563) ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีชายก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า และยิงออกมานอกตัวบ้านมากกว่า 50 นัด เหตุเกิดภายในชุมชนวัดขุดก้อง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมากกว่า 50 นาย รวมทั้งประสานหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 20/3 ชุมชนวัดขุดก้อง พบญาติและชาวบ้านใกล้เคียงอยู่ในอาการตื่นตกใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุ ชื่อ นายจักรกฤษ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังรอบบ้านที่เกิดเหตุ และพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อม
กระทั่งผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง นายจักรกฤษ ผู้ก่อเหตุ จึงยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก และจากการตรวจสอบทั้งในบริเวณบ้านและรอบตัวบ้านพบปลอกกระสุนปืนเกือบ 50 ปลอกกระจายเกลื่อน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่ได้มีใครถูกจับเป็นตัวประกัน เพราะขณะก่อเหตุนายจักรกฤษ อยู่คนเดียว ส่วนญาติพี่น้องอยู่ในบ้านต่างตกใจกลัวเพราะเกรงว่ากระสุนปืนจะเข้าไปถูกคนในบ้าน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนที่ สภ.นางรอง ซึ่งจากการสอบถามนายจักรกฤษ ผู้ก่อเหตุ ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้คลุ้มคลั่งและไม่ได้ก่อเหตุเลียนแบบจ่าสิบเอกที่จ.นครราชสีมา แต่อ้างว่าที่ก่อเหตุยิงปืน เพราะไม่พอใจที่ถูกญาติต่อว่าเรื่องตัดต้นไม้ข้างบ้าน และนำกิ่งไม้ไปทิ้งเท่านั้น จึงนำปืนออกมายิงเพื่อระบายอารมณ์ และไม่ได้จงใจจะยิงใส่ใคร
ทั้งนี้ ยังบอกด้วยว่าตนเองเคยสมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์ และเพิ่งปลดประจำการออกมาเมื่อปี 2554
ยิงกันสาหัส 2 คาดเกิดจากลูกน้องไม่พอใจ "เสี่ย" ถูกโพสต์ด่า
วันที่ 17 ก.พ. 2563 ร.ต.อ.เดชาธร ทะเดช รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า ตนและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุวัยรุ่นถูกยิงบาดเจ็บหลายรายบริเวณหน้าวัดจันทร์ประดิษฐ์ฐาราม ซอยเพชรเกษม 48 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ ที่เกิดเหตุพบวัยรุ่นจับกลุ่มพูดคุยกันบริเวณดังกล่าว และพบจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มคว่ำอยู่
ขณะที่รอบๆ จักรยานยนต์มีปลอกกระสุนตกอยู่ราว 15 ปลอก ตกเกลื่อนพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นรายแรกถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ซ้าย และสะบักด้านหลังขวา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตากสิน และอีกรายถูกยิงที่ต้นขาขวา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น เพื่อนของผู้บาดเจ็บให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ 5-6 คน ชวนกันมานั่งดื่มบริเวณหน้าวัด จนกระทั่งต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาวนหน้าวัดประมาณ 10 คัน โดยทุกคันมีคนซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อกและใส่หน้ากากอนามัยปิดบัง โดยหนึ่งในนั้นจอดรถก่อนหันมามองกลุ่มตน จากนั้นมีคนในกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์มาถามคนในกลุ่มว่าใช่ไหม เมื่อสิ้นเสียงมี 1 คนในนั้นชักปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัด จนพวกตนวิ่งหนีเพื่อหลบกระสุน
ด้านน้องชายผู้บาดเจ็บเล่าว่า สาเหตุที่ถูกยิงนั้นน่าจะเกิดจากพี่ชายของตนโพสต์เฟซบุ๊กตำหนิเสี่ยคนดังรายหนึ่ง ที่ปล่อยให้พรรคพวกตนที่เป็นลูกน้องถูกทำร้าย ขณะเดินทางไป ส.ป.ป.ลาว และไม่ดูแล โดยโพสต์ตำหนิไปเมื่อวันที่ 15 ก.พ. และในวันที่ 16 ก.พ. ลูกน้องของเสี่ยดังกล่าวโทรมาต่อว่า และให้ลบโพสต์ทิ้ง หากไม่ลบจะไม่ดูแลค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บ แต่พี่ชายตนไม่ลบ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าว ซึ่งจะสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนจะติดตามมือปืนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จิตแพทย์ ชี้เหตุกราดยิงเกิดจากปัญหาสุขภาพจิตน้อย
ขณะที่ นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงการประเมินแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า จากสถิติการก่อเหตุกราดยิงคนจำนวนมาก พบว่ามีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพจิตน้อยมาก ในต่างประเทศพบเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ส่วนตัวเลขบางประเทศในยุโรปอาจจะอยู่ที่ร้อยละ 25 แต่ผู้ก่อเหตุอีกร้อยละ 75 คือคนทั่วไป ที่มีแรงจูงใจแรงกระตุ้นบางอย่าง
ส่วนเหตุกราดยิงโคราชถือเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นในไทย ต้องยอมรับว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้ต่อเหตุน้อยมาก เนื่องจากโซเชียลมีเดียสของผู้ก่อเหตุถูกปิดไปแล้ว ไม่สามารถเปิดดูข้อมูลเก่าได้ รู้แค่ว่าผู้ก่อเหตุชื่นชอบปืนและศิลปะป้องกันตัว เป็นความรู้ผิวเผิน แต่ไม่รู้เกี่ยวกับครอบครัวประวัติความเป็นมา การใช้ชีวิตรวมถึงลักษณะอุปนิสัยเป็นส่วนที่ไม่รู้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง