นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ตามข้อเรียกร้องของ 8 สายการบินที่ขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินในประเทศ ด้วยการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟต์โลน 25,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ผู้ประกอบการอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว โดยกังวลว่าหากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือข้างต้นภายในเดือนนี้ผู้ประกอบการจะอยู่อย่างยากลำบาก และอาจจะมีสายการบินที่ไม่ได้ไปต่อ

“เงินกู้เงียบยิ่งกว่าป่าช้า ไม่ได้มีหมายเลขที่ท่านเรียก มีขอเข้าไปพบแต่ยังไม่ได้พบเลย ที่ผ่านมาสายการบินมีการสร้างรายได้ให้กับรัฐ ทั้งในเรื่องภาษี และค่าจอด ค่าบริหารสนามบินนับแสนล้านบาท พอถึงวันวิกฤตก็ควรช่วยเหลือกัน” นายธรรศพลฐ์ กล่าว

• ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย

ทั้งนี้ นายธรรศพลฐ์ ระบุว่า อยากให้มีการเปิดประเทศเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาได้โดยเร็วที่สุด แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการจับคู่ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ และอาจจำกัดให้นักท่องเที่ยวอยู่ได้เฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น โดยความเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการอยากให้เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวได้คือตั้งช่วงแต่วันที่ 1 - 15 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป ตามการประกาศเปิดสนามบินในหลายประเทศ โดยช่วงแรกควรเปิดให้เฉพาะประเทศในกลุ่มอินโดจีน ทั้ง เวียดนาม ลาว และกัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเป็นปกติแล้ว เพราะหากไม่มีต่างชาติเข้ามา ภาคการท่องเที่ยวและการบินก็ไม่มีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งสายการบินไทยแอร์เอเชียแม้จะมีเที่ยวบินในประเทศสัดส่วนร้อยละ 65 แต่ผู้โดยสารต่างชาติมีบินภายในประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเปิดประเทศ เสนอให้รัฐบาลใช้แนวทางการตรวจพิจารณาคัดกรองอย่างเข้มงวด เช่น การเจาะเลือด หรือสแกนความผิดปกติ หรือใช้เวลาประมาณครึ่งวัน แทนการกักตัว 14 วัน เพราะมองว่าหากมีการกักตัว 14 วันแม้จะเปิดประเทศก็เป็นเรื่องยากที่จะมีการเดินทางข้ามประเทศ