ไม่พบผลการค้นหา
'ชาญชัย อิสระเสนารักษ์' วอน! 'ประยุทธ' หยุดสร้างภาพปราบทุจริต แนะอย่าเห็นแก่พวกพ้องมากกว่าส่วนรวม พร้อมยื่นทวงถามคืบหน้าทุจริต ทอท.

ที่ศูนย์รับเรื่องราวเรียนร้องทุกข์ของรัฐบาล ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.ในนามตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือ "ติดตามทวงถามผลดำเนินคดีทุจริตประพฤติมิชอบ" ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

โดยวันนี้ไม่มีตัวแทนของสำนักนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือเนื่องจากเป็นช่วงควบคุมการระบาดของโควิด-13 มีเพียงเจ้าหน้าที่ศูนย์ร้องเรียนศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนฯ ลงเลขรับและให้นายชาญชัยนำหนังสือรวมทั้งเอกสารต่างๆส่งตู้ ปณ. 1111 หรือตู้แดงหน้าประตู 1 ทางเข้า สำนักงาน ก.พ.  

ชาญชัย กล่าวว่ามายื่นเอกสารเกี่ยวกับการทุจริตในการท่าอากาศยานหรือ ทอท. ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตในชั้นฎีกาไว้แล้วว่า มีการกระทำความผิดตามฟ้องจริงซึ่งตนเป็นโจทย์เอง เกี่ยวกับการอนุมัติเรียกเก็บเงินผลประโยชน์ตามสัญญา 15 % แต่เรียกเก็บแค่ 3% ถือว่ากระทำผิดตั้งแต่การอนุมัติ แต่ตนไม่มีอำนาจฟ้องเพราะพึ่งมาถือหุ้นภายหลังจากเกิดเหตุ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐจะดำเนินคดีเอง ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์หลายครั้งแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยจากนี้จะหาโอกาสยื่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยตรงด้วย


ขอให้เอาผิดปมสัมปทานดิวตี้ฟรี

นอกจากนี้ยังมีกรณีการสัมปทานของบริษัท king power เกี่ยวกับสัมปทานร้านขายสินค้าปลอดอากร ภายในสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูมิภาค ระหว่างกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ และบริษัท ทอท . ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าจ่ายค่าตอบแทนให้ ทอท. ไม่เป็นไปตามสัญญา จึงเป็นการผิดสัญญาโดยยอดความเสียหายทั้ง 2 ประเด็นขณะฟ้องคดีเป็นเงินประมาณ 14,290 ล้านบาทเศษ ไม่รวมดอกเบี้ย

พร้อมกันนี้ ชาญชัย ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการกับคณะกรรมการที่กระทำความผิด ซึ่งยังไม่ถูกลงโทษและความเสียหายยังมีอยู่ จึงต้องเรียกเก็บให้ครบตามสัญญา อีกทั้งยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าเห็นประโยชน์ของตัวเองหรือพวกพ้อง มากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม จัดการผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบหรือทุจริตอย่างจริงจัง หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยเลือกคนดีเข้ามาทำหน้าที่แทน และสุดท้ายคือหยุดสร้างภาพได้แล้ว หรืออย่าเพียงแค่พูดว่าจะปราบทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ แต่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง