ไม่พบผลการค้นหา
'เศรษฐา' ชี้แจงนโยบายแรงงาน มุ่งพัฒนาระบบวันสต็อปเซอร์วิสแรงงาน จ่อเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เน้นการท่องเที่ยวเพื่อดึงเงินภาคบริการ จ่อหารือ 3 ฝ่าย หวังปรับค่าแรงขั้นต่ำให้เหมาะสมเพื่อแตะเป้าหมาย 400 บาทเร็วที่สุด

วันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.)แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงถึงนโยบายเกี่ยวกับแรงงาน ภายหลังฟังการอภิปรายของสมาชิกสภาฯ ว่า เมื่อกี้นั่งฟังอยู่นิดหนึ่ง ก็ให้ใจเย็นกันนิดหนึ่ง ยังเช้าอยู่เลยวันนี้เราอยู่กันดึก ยิ้มแย้มบ้าง ซึ่งประเทศเราจริงๆเป็นประเทศที่โชคดีเป็นที่ต้องการของแรงงานมาก อัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ถือว่าเป็นความโชคดีบนความโชคร้าย เพราะประชากรของเรามีงานทำแต่ความต้องการแรงงานของเรามีเยอะมาก เพราะฉะนั้นเรื่องของการพึ่งแรงงานต่างชาติเป็นเรื่องจำเป็น โดยมากับแรงงานต่างชาติเป็นเรื่องดูแลสิทธิมนุษยชน ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ ดูแลเรื่องศักดิ์ศรี ดูแลเรื่องความปลอดภัย และความมั่นคง ปัญหาที่พูดมาหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวันสต็อปเซอร์วิสที่หลายรัฐบาลก็พยายามทำกันแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลของเราตระหนักดี แล้วก็มีการรับฟังข้อมูลเบื้องต้นจากปัญหาการประมงที่เกิดขึ้นเราเองจะพยายามทำเรื่องวันสต็อปเซอร์วิสให้ดีขึ้น ให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยคำนึงถึงผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงานและรายงานต่างด้าวด้วย 

เรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น การท่องเที่ยวเพื่อดึงเงินเข้าภาคบริการ และค่าแรงปรับขึ้นตามความต้องการของแรงงาน นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการแล้ว เรายังจะลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของพี่น้อง และผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ด้วย โดยที่หลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น จะให้แนวทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ดำเนินการในวาระเร่งด่วน 

ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องที่หลายพรรคก็พูดกันไว้เพราะทุกท่านก็มีความเป็นห่วงกังวลของประชาชนชายขอบของสังคมที่ต้องได้รับการดูแล มีรายได้ที่เหมาะสมเพียงพอกับการใช้จ่ายประจำวันเรื่องนี้เราจะมีการเจรจากับทั้ง 3 ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝั่งแรงงาน ผู้ว่าจ้างและรัฐบาลเพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยมีเป้าหมายที่ 400 บาทโดยเร็วที่สุด