ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน กสม.ยืนยันจะติดตามการหายตัวไปของ 'นักกิจกรรมการเมือง' แม้ล่าสุดยังไร้ความคืบหน้าจากทางการกัมพูชา

นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่าสำนักงาน กสม.ได้รับหนังสือตอบกลับจากนางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้ว เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมากรณี กสม.ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทยที่หน้าอาคารที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยระบุว่าทันทีที่ปรากฏข่าวทางสื่อว่านายวันเฉลิมถูกลักพาในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 18.00 น.แล้ว วันที่ 5 มิ.ย. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามตัวนายวันเฉลิม 

จากนั้น น.ส. สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม และตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ติดตามและให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิม รวมทั้งให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนายวันเฉลิมเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ให้ น.ส.สิตานันท์และตัวแทนศูนย์ทนายความทราบ

นายวัส กล่าวว่า ต่อมานายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประทศได้ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร โดยแจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ว่า ไม่เคยได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่านายวันเฉลิมเป็นบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อประเทศด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ และนายวันเฉลิมไม่ได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยตามนิยามของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) โดยเชื่อว่า UNHCR รับทราบและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด โดย UNHCR ต้องรอการชี้แจงและข้อมูลจากทางการกัมพูชาเช่นเดียวกัน

ประธาน กสม. กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจง ว่าวันที่ 11 มิ.ย. เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้รับหนังสือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น นายวันเฉลิมมีประวัติการเดินทางเข้า - ออกกัมพูชาหลายครั้งระหว่างปี 2557–2558 ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ากัมพูชาวันที่ 19 ต.ค. 2558 และได้รับการต่ออายุการตรวจลงตราถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ซึ่งทางการกัมพูชายังไม่สามารถยืนยันเหตุการณ์นี้ได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งประเด็นนี้ให้น.ส.สิตานันท์ทราบตามที่มีหนังสือร้องเรียน

โดยหนังสือตอบกลับของปลัดกระทรวงต่างประเทศยังระบุด้วยว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้ส่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุตามที่ น.ส.สิตานันท์ให้ข้อมูลแก่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นข้อมูลตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้ติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางการกัมพูชาอยู่เป็นระยะ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่ายังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กสม.จะติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหวังว่าจะได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อประสานการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่นายวันเฉลิมและครอบครัวต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง