ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ยุติธรรม สั่งผู้บัญชาการเรือนจำ 141 แห่ง เข้มงวดป้องกันโควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ พร้อมกำชับทำประวัติใส่ใจผู้ต้องขังก่อนปล่อยพักโทษ หวั่นปล่อยออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า การประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับผู้บัญชาการเรือนจำ 141 แห่งทั่วประเทศ ที่ผ่านม กำชับทุกเรือนจำห้ามประมาท สอดส่อง คัดกรองให้ละเอียด ดูแลอย่าให้เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เข้าสู่เรือนจำ เพราะจะได้รับผลกระทบในวงกว้างทันที เวลานี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำแล็บ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กร ที่สามารถตรวจบุคคลภายนอก และบุคลากรของกระทรวงยุติธรรมได้ ดังนั้นผู้บัญชาการทุกเรือนจำต้องหาทางศึกษาการเก็บสารคัดหลั่งให้เป็น เพื่อนำส่งมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจหาเชื้อให้ เพื่อความรวดเร็วและป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามต่อไป

“เวลานี้เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในเรือนจำได้ดี รายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ ทำให้ผู้ต้องขังเกิดความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ จนไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นอีก สังคมก็ชื่นชมเพราะเห็นว่าเราพยายาม เวลาทำงานสำเร็จเราก็สำเร็จด้วยกัน ขอให้ทุกคนทำงานหนักเฝ้าระวังให้ละเอียดห้ามการ์ดตก” รมว.ยุติธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการปล่อยตัวนักโทษของกรมราชทัณฑ์ ว่า ต้องมีการคัดกรองให้ดี ต้องรู้ว่าแต่ละคนเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมอย่างไร มิใช่ปล่อยออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำ ต้องใส่ใจนักโทษ เพราะในเดือนสิงหาคม – กันยายน จะมีกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม จะพิจารณาพักโทษเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม การใส่ใจที่ระบุต้องรวมถึงงบประมาณที่กระจายสู่เรือนจำกว่า 190 ล้านบาท ที่ทำห้องกักโรค รวมถึงทำเตียง 2 ชั้นที่บางเรือนจำเริ่มลงมือทำแล้ว ต้องวางแผนคำนวณตารางเมตรให้ดี ที่นอนผู้ต้องขังต่อคนนั้นประมาณ 1.2 ตารางเมตร มิใช่ทำแล้วที่นอนเล็กกว่าโลงศพ อากาศต้องถ่ายเท ถูกสุขลักษณะเป็นสำคัญ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :