ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก เปิดเผยถึงการชุมนุมใหญ่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วันที่ 19 ก.ย. ว่า การชุมนุมเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์ ความรุนแรงนั้น ต้องย้อนถามรัฐบาลว่าจะใช้ความรุนแรงกับประชาชนหรือไม่ ซึ่งมองว่าไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน หากกังวลเรื่องมือที่สามก็ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต้องรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด
ส่วนจะลุกลามบานปลายไปจนถึงขั้นยึดทำเนียบรัฐบาลอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ทัตเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด แต่ต้องบอกว่าจุดประสงค์ของการเดินไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อต้องการยื่นหนังสือให้ผู้มีอำนาจออกมารับด้วยตัวเอง หากผู้มีอำนาจไม่มารับด้วยตัวเอง ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกัน ในวันที่ 23-24 ก.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระรับหลักการนั้น กลุ่มเยาวชนปลดแอก จะเดินทางให้กำลังใจสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ทั้งในส่วนของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นที่หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 84 คน ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระรับหลักการ ไม่ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา จนไม่อาจนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ได้นั้น จุดประสงค์ในการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ต้องการแก้ ม.256 เพื่อนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. หากญัตติถูกตีตก จะมีการชุมนุมในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อกดดันให้ตั้ง ส.ส.ร.ต่อไป
ด้าน อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการชุมนุมที่ผ่านมาซึ่งไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ขอยืนยันว่าการชุมนุมมีความปลอดภัยแน่นอนหากจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องร่วมกันทำให้การชุมนุมเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเป็นการชุมนุมที่มาจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ และเป็นการชุมนุมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการชุมนุมไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งกฎหมายการชุมนุมสาธารณะและกฎหมายอื่นที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งหากไม่ผิดกฎหมายอื่นก็แสดงว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีกฎหมายใดที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ หากการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยก็ไม่มีทางที่จะขัดรัฐธรรมนูญ
สำหรับการที่มีความพยายามผลักคนออกไปสู่พื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยนั้น อานนท์ มองว่า หากรัฐไม่ใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทุกสถานที่ก็ปลอดภัยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบนถนนหรือท้องสนามหลวง หากจะมีความไม่ปลอดภัยก็ต่อเมื่อเราใช้ถ้อยคำรุนแรงหรือตั้งใจยั่วยุ หรือมีการส่งคนมาก่อกวน ซึ่งมั่นใจว่าตำรวจก็ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย เพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงมั่นใจว่าตำรวจไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะอาจสูญเสียฐานเสียงของคนรุ่นใหม่ ส่วนคนที่ไม่พอหวังดีกับบ้านเมืองทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมก็ต้องช่วยกันดูแล