ไม่พบผลการค้นหา
กมธ.พาณิชย์ เผยมติ คกก.ตรวจสอบ อคส.จัดซื้อถุงมือยางมูลค่า 112,500 ล้านบาท สั่งระงับนิติกรรมการซื้อขายทั้งหมด หลังพบว่าสัญญาอาจเป็นโมฆะ เหตุเป็นการกระทำที่เกินอำนาจ ขณะ ผอ.อคส.คนปัจจุบัน เดินหน้าชง 'ป.ป.ช.-ปปง.-ดีเอสไอ' เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า( อคส.) กับบริษัทเอกชน มูลค่า 112,500 ล้านบาท เบื้องต้น ผู้แทน อคส.ชี้แจงว่าได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมีความเห็นว่านิติกรรมการซื้อขายที่เกิดขึ้น อาจเป็นการกระทำที่เกินอำนาจของ อคส.ผิดระเบียบของ อคส.และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สัญญาดังกล่าวจึงอาจเป็นโมฆะ

ดังนั้นมติของคณะกรรมการ จึงให้ระงับนิติกรรมการซื้อขายทั้งหมด โดยผู้อำนวยการ อคส.คนปัจจุบันได้ไปแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวแล้ว และส่งเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

ทั้งนี้เมื่อดีเอสไอ ชี้มูลข้อเท็จจริงแล้วจะรายงานผลมายัง กมธ.ต่อไป โดยการประชุม กมธ.ในวันที่ 14 ต.ค. จะเชิญดีเอสไอ ปปง.และ อคส.มาชี้แจงอีกครั้ง

อัครเดช กล่าวต่อว่า กมธ.ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ คือ 1.การเบิกจ่ายเงินตามสัญญาซื้อขายถุงมือยางจะต้องกระทำผ่านคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้นในเรื่องนี้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างอาจมีความผิด 2.จำนวนถุงมือยาวที่ซื้อขายกันจำนวนมากนั้นในความเป็นจริงมีจำนวนตามที่ระบุหรือไม่ 3.ขอให้ อคส. รีบดำเนินการตรวจสอบว่าจำนวนเงินที่ทำการโอนไปแล้วตามสัญญาซื้อขายขณะนี้อยู่ที่ไหน และ 4. ขอให้อคส.แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ทราบถึงมติของคณะกรรมการตรวจสอบที่ให้ระงับการซื้อขายถุงมืออยางทั้งหมด

ทั้งนี้ทางผู้ชี้แจงจาก อคส. แจ้งว่าทางรมว.พาณิชย์ ได้เร่งให้ ผอ.อคส.คนใหม่ ดำเนินคดีเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว เพื่อที่จะเยียวยาให้ อคส.เสียหายน้อยที่สุด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: