ไม่พบผลการค้นหา
วิจัยล่าสุดพบว่าคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอาจไม่แสดงอาการใดๆ ให้เห็นเลย มีเพียงอาการอักเสบในปอดเท่านั้น จึงควรเน้นการกักตัวผู้ป่วยและสืบประวัติการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

วิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในนิตยสารทางการแพทย์ The Lancet เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่มีต้นตอการระบาดที่เมืองอู่ฮั่นของจีน ระบุว่า ไวรัสนี้อาจอยู่ในปอดของผู้ติดเชื้อโดยที่ไม่แสดงอาการอื่นๆ ออกมาเลย จะรู้ได้จากการสแกนปอดเป็นหลัก

ดังนั้น การกักตัวผู้ป่วยอย่างเข้มงวดและการสืบประวัติการปฏิสัมพันธ์ของผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จึงมีความสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นไปมากเท่าช่วงที่โรคซาร์สระบาดช่วงปี 2003 ที่มีคนเสียชีวิตมากถึง 774 ราย แต่หากไม่มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการเหล่านี้จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่กระจายไปอีกหลายประเทศ

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อชั้นนำของฮ่องกงได้ศึกษาครอบครัวที่มีสมาชิก 7 คน ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยฮ่องกง-เซินเจิ้นในวันที่ 10 - 15 ม.ค. หลังจากที่สมาชิกครอบครัว 6 คนเดินทางจากเซินเจิ้นไปอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. - 4 ม.ค. ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 คน

ผลการตรวจเชื้อพบว่า สมาชิก 6 คนติดไวรัสโคโรนาที่เรียกว่า 2019-nCoV และในจำนวนนี้ มีเด็กชายวัย 10 ปีที่ไม่แสดงอาการออกมาเลย แต่เมื่อสแกนปอดของเขาแล้วพบความผิดปกติที่เรียกว่า ความเปลี่ยนแปลงในปอดลักษณะเป็นฝ้าขาว

รายงานดังกล่าวระบุว่า พ่อแม่ของเด็กชายคนนี้ืยืนยันให้แพทย์สแกนปอดของลูกชาย แม้ลูกจะไม่มีอาการก็ตาม และสมาชิกอีก 2 คนที่ได้รับการวินิจฉัยในภายหลังว่าติดเชื้อ ก็ไม่ได้มีไข้ในช่วงแรกที่ไปตรวจที่โรงพยาบาลเช่นกัน

ผลการศึกษานี้สามารถไปเทียบเคียงกับกรณีที่ผู้ติดโรคซาร์สเมื่อปี 2003 แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งยังพบได้น้อยมาก แต่ยังต้องมีการศึกษาต่อไปว่าผู้ติดไวรัสโคโรนาแต่ไม่แสดงอาการเหล่านี้จะทำให้การแพร่ระบาดได้รวดเร็วและกว้างขวางขนาดไหน

แม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนจะยืนยันแล้วว่า ไวรัสโคโรนามีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าที่ขายในตลาดเมืองอู่ฮั่น แต่ผู้ป่วย 6 คนนี้ไม่ได้สัมผัสกับสัตว์ใดๆ ไม่ได้ไปตลาดที่ขายสัตว์ป่า และไม่ได้กินสัตว์ป่าในร้านอาหารเลย

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้สรุปว่า จากบทเรียนที่ได้จากการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ซึ่งก็มาจากสัตว์ป่าเช่นกันในช่วงแรก ก็ควรมีการควบคุมกฎเกณฑ์สำหรับสัตว์ป่าที่นำมาขายทั้งหมด เพราะจะกำจัดการติดเชื้อสู่คน

ทั้งนี้ นักวิจัยยังมองเห็นข้อดีของการแพร่ระบาดของเชื้อในรอบนี้ว่า เครือข่ายเฝ้าระวังและความสามารถของห้องทดลองของจีนดีขึ้นมากจากช่วงปี 2003 ทำให้พบการระบาดนี้ภายในเวลาไม่กี่สักดาห์เท่านั้น และมีการประกาศรหัสพันธุกรรมและส่วนประกอบจีโนมของเชื้อไวรัสออกมา ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาการวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและมีการควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : South China Morning Post, STAT News