ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่ม All people อ่อนนุช-บางนา ลดเพดานคณะราษฎร 63 แกนนำชี้ ต้องสู้แบบขั้นบันได ขอ ส.ส.ลาออกทั้งสภา ก่อนจัดเลือกตั้งใหม่ ควรนำ รธน.ปี 2540 กลับมาใช้ใหม่ ก่อนกลับมาระบุว่ายืนยันไม่ลดเพดานข้อเรียกร้อง เป็นเพียงความเห็นของทางกลุ่มที่เสนอต่อสังคม ขณะที่เยาวชนปลดแอก ระบุยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องไม่ลดเพดาน

กลุ่ม All people ร่วมกับกลุ่มประชาชน​อ่อนนุช-บางนา นำโดย นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ แกนนำจัดชุมนุมภายใต้คำขวัญ #ก็เร็วๆสิคะ ที่แยกอุดมสุข ก่อนเดินขบวนตามถนนสุขุมวิท ไปทางแยกบางนา โดยมีการปิดถนนและหยุดปราศรัยผ่านรถเครื่องขยายเสียงเป็นระยะ จุดแรกคือ ระหว่างซอยสุขุมวิท 103 กับจุดตัดแยกถนนอุดมสุข มีตัวแทนกลุ่มนักเรียน กล่าวปราศรัยถึงกฎระเบียบที่ล้าหลังและละเมิดสิทธินักเรียนในโรงเรียน ปิดกั้นการแสดงออกและมีการคุกคามนักเรียน ซึ่งรวมถึงการมีเจ้าหน้าที่รัฐนอกเครื่องแบบคอยติดตามถ่ายรูปนักเรียนที่ปราศรัยและร่วมชุมนุมด้วย พร้อมประณามการสลายการชุมนุมวันที่ 16 ตุลาคม บริเวณแยกปทุมวัน ด้วยความรุนแรง

โดยนายณัฐวุฒิ อ่านแถลงการณ์และประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1.ให้นำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ 2.ยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่ด้วยความโปร่งใส โดยขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านลาออก 3.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน

แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า หลังจากได้สภาผู้แทนราษฎรจากเสียงประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีตัวแทนของคณะสถาบัน, คณะรัฐมนตรีและคณะประชาชนเป็นผู้ร่วมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเป็นการไม่ดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ในรัฐธรรมนูญต้องถูกร่างเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ 1.​ห้ามไม่ให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาแทรกแซงในการบริหารบ้านเมืองในหน่วยงานของรัฐบาล โดยคณะรัฐบาลไม่ก้าวล่วงในส่วนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2.ลดบทบาทและอำนาจหน้าที่ของทหาร 3 เหล่าทัพรวมถึงตำรวจให้ชัดเจน เพื่อลดการสืบทอดอำนาจ 3.เพื่อไม่ให้มีการสืบทอดอำนาจคณะรัฐมนตรี จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทุกๆ 4 ปี และถ้าหน่วยงานใดพบการทุจริต ของคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีทั้งหมดจะต้องสิ้นสภาพทันทีและดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า การลดเพดานข้อเรียกร้องคณะราษฎรและคณะประชาชนปลดแอกครั้งนี้ เป็นเพราะอยากเห็นจุดจบของเรื่องนี้ หลัง "3 ข้อเรียกร้อง 1 ความฝัน" ไม่คืบหน้า ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนอง ทางกลุ่มจึงมุ่งขจัด "รัฐบาลประยุทธ" ก่อน และเห็นว่าแนวทางนี้คือ สะท้อนการต่อสู้แบบขั้นบันได

ก่อนที่ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" นักกิจกรรมทางการเมือง จะปราศรัยตอนหนึ่งว่า ระบอบประชาธิปไตยจะต้องอยู่ในประเทศไทยได้ ไม่ใช่อยู่ได้แต่ในยุโรปเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ข้อเสนอ 10 ข้อ ในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ขัดกับระบอบประชาธิปไตย และเรียกร้องในสิ่งที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว

สิรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องการรัฐธรรมนูญเพื่อคนทุกคน ไม่ใช่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือเพื่อพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น และเห็นว่า รัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบันปี 2560 ลอกมาจาก "เมียนมาร์" ดังนั้นจึงเห็นด้วยในเบื้องต้น ที่จะนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้และปรับปรุงให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

ม็อบบางนา กลับลำ ไม่ลดเพดานสู้แล้ว

เวลาต่อมา กลุ่ม All people ร่วมกับกลุ่มประชาชน​อ่อนนุช-บางนา เคลื่อนขบวนจากแยกอุดมสุข มาที่คอนโดมิเนียม The coast ถนนสุขุมวิท ซึ่งแกนนำระบุว่า เป็นที่พักหรือสำนักงานของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ

โดยมีการสลับกันปราศรัย โจมตีบทบาทของนายไพบูลย์ ที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ก่อนได้อำนาจในสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลังการรัฐประหาร 2557 และยังได้เป็น ส.ส. ในบัญชีรายชื่อพรรคประชาชนปฏิรูป จากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่คณะรัฐประหารออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจ แล้วยุบพรรคตัวเองมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ทั้งยังดูถูกการเคลื่อนไหวของเยาวชนนักเรียนนักศึกษาและประชาชนในห้วงที่ผ่านมาว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ จึงต้องมาแสดงพลังครั้งนี้

มีแกนนำและผู้ปราศรัยยืนบางส่วน ยืนยันว่า การลดเพดานข้อเรียกร้อง เป็นเพียงความเห็นของทางกลุ่มที่เสนอต่อสังคม ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะเสนอได้ในฝ่ายประชาธิปไตย แต่เคารพและไม่ก้าวล่วงกลุ่มอื่นๆ หรือคณะราษฎร'63 ที่ยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องซึ่งรวมถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ด้วย 

ขณะที่นายพรหมศร ปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า ขอเป็นตัวแทนและกล่าวในนามคณะราษฎร'​63 และเยาวชนปลดแอก รวมถึงคณะประชาชนปลดแอก โดยได้ย้ำข้อเรียกร้องของคณะราษฎร'​63 พร้อมยืนยันว่า การต่อสู้ของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชน จะไม่มีการลดเพดานการต่อสู้แน่นอน และกล่าวด้วยว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์ควรถูกลดอำนาจลงได้แล้ว เราต้องการการปกเกล้า ไม่ใช่การปกครอง"

เยาวชนปลดแอก ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง ไม่ลดเพดาน

ขณะที่ เพจของ เยาวชนปลดแอก ระบุว่า "ไม่ลดเพดาน" ข้อเรียกร้อง! เราไม่อาจหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้ได้เลย หากตัดสถาบันกษัตริย์ออกจากสมการทางการเมืองของไทย เวลานี้ เราไม่อาจหลีกหนีความจริงได้อีกต่อไปแล้วว่า พระราชอำนาจที่ล้นเกินระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของสถาบันกษัตริย์ คือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้การเมืองไทยเดินมาสู่จุดนี้

เราขอยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้องเดิมของราษฎรว่า 1. "ประยุทธ์" และองคาพยพต้องออกไป! ตลอดการเข้าสู่อำนาจของประยุทธ์ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า บริหารได้อย่างล้มเหลว มีที่มาอย่างไม่ถูกต้อง ทั้งจากการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ 2. "เปิดช่องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน" โดยปราศจากการแทรกแทรงจากสถาบันกษัตริย์หรือนายพลและชนชั้นนำอื่นๆที่ประชาชนไม่ได้เลือก 3. "ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์" ให้กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ไม่มีพระราชอำนาจล้นเกินความเป็นประชาธิปไตย จนอาจทำให้สถาบันกษัตริย์สั่นคลอนด้วยการถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายเผด็จการ ฟาสซิสต์ และกลุ่มคนที่หาผลประโยชน์จากสถาบันกษัตริย์

สิ่งเดียวที่ควรลดคือความเป็นเผด็จการ เพิ่มความเป็นคนให้มากขึ้น! ทั้ง 3 ข้อเรียกร้องนี้ ไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางเดียวที่นำพาประเทศไทย หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา และก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว เยาวชนและประชาชนจะสามารถมีอนาคตที่มีแสงสว่าง สามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างเท่าเทียม สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ #ม็อบ1พย #ม็อบ1พฤศจิกา #เยาวชนปลดแอก