ไม่พบผลการค้นหา
"เรืองไกร" เตรียมยื่น กกต.สอบ "ธรรมนัส" เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ตามข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ อาจต้องพ้นจากส.ส. หรือไม่ กรณีถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ตนได้ไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สำนักงานป.ป.ช. ซึ่งยื่นไว้กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในเอกสารประกอบนั้น ร.อ.ธรรมนัสได้ยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการ , ผู้ถือหุ้น ของ 3 บริษัทไว้ด้วย ดังนี้

- หนังสือลงวันที่ 5 เมษายน 2562 ขอลาออกจากกรรมการ,ผู้ถือหุ้น ของบริษัท โกลเบิล ทราเวิล เอเจนซี จกัด

- หนังสือลงวันที่ 18 เมษายน 2562 ขอลาออกจากกรรมการ,ผู้ถือหุ้น ของบริษัทสิทธิอาโป จำกัด

- หนังสือลงวันที่ 24 เมษายน 2562 ขอลาออกจากกรรมการ,ผู้ถือหุ้น ของบริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า หนังสือลาออกของทั้งสามบริษัท มีวัตถุประสงค์ข้อ 11 ระบุไว้เหมือนกันว่า "(11) ประกอบกิจการบริการจัดเก็บรวบรวมจัดทำจัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติข้อมูลในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาดรวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ"

โดยวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจดังกล่าว เข้าข่ายเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98 (3) ซึ่งห้ามมิให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ไว้ด้วย และตามข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2562 ก็ระบุว่า ข้อความตามวัตถุประสงค์ข้อ 11 ดังกล่าวก็เป็นกรณีที่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ด้วย

ด้วยเหตุนี้ตนจึงขอหนังสือรับรองและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัททั้งสามจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาสอบยันข้อมูลตามที่แจ้ง ร.อ.ธรรมนัส แจ้งไว้ต่อป.ป.ช. ซึ่งพบว่า มีข้อมูลเพียงพอที่อาจทำให้ร.อ.ธรรมนัสอาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ส.ส.ตามมาได้

ดังนั้น ในวันที่ 20 กันยายน นี้ เวลา 10.30 น. ตนจะไปยื่นเรื่องที่ กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร Bเพื่อขอให้มีการตรวจสอบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติและต้องพ้นจากส.ส. ตามมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่