ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - กูเกิล-เฟซบุ๊ก 'เอาอยู่' แม้เผชิญข่าวฉาวตลอดปี 2018 - Short Clip
World Trend - มาเลเซียจะกลับมาเป็น 'เสือแห่งอาเซียน' ใน 3 ปี - Short Clip
World Trend - 'กัปตันมาร์เวล' ทำรายได้ทั่วโลกดีเกินคาด - Short Clip
World Trend - แอปเปิลปลดพนักงานพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ 200 คน - Short Clip
World Trend - ฮ่องกงเล็งสร้าง 'เกาะเทียม' แก้ปัญพื้นที่น้อย - Short Clip
World Trend - 22 ใน 30 เมืองมลพิษสูงสุดของโลกอยู่ในอินเดีย - Short Clip
World Trend - กลุ่มมหาเศรษฐีญี่ปุ่นร่ำรวยขึ้นภายใต้ 'อาเบะโนมิกส์' - Short Clip
World Trend - ​จีนลงทุน 500 ล้านบาท สร้างร้านหนังสือ - Short Clip
World Trend - บริษัทรถเร่งพัฒนาระบบชาร์จแบตฯ เต็มใน 15 นาที - Short Clip
World Trend - 'วิคตอเรีย เบ็คแฮม' ประกาศแบนหนังสัตว์หายาก - Short Clip
World Trend - บริษัท 3M สั่งปลดพนักงานทั่วโลก 2,000 คน​ - Short Clip
World Trend - ยอดขายหัวเว่ยทะลุแสนล้าน แม้ถูกกีดกันจากทั่วโลก - Short Clip
World Trend - มูลค่า 'บิตคอยน์' ตกลงต่ำสุดในรอบเดือน - Short Clip
World Trend - อีลอน มัสก์ พิจารณาถอน 'เทสลา' ออกจากตลาดหลักทรัพย์ - Short Clip
World Trend - มาตรการทรัมป์ทำนักลงทุนจีนหนีซิลิคอนแวลลีย์ - Short Clip
World Trend - ราคาอินเทอร์เน็ตอังกฤษแพงกว่าอินเดีย 25 เท่า - Short Clip
World Trend - 'พลัสไซซ์' ตลาดใหม่เพื่อแฟชั่นที่เท่าเทียม - Short Clip
World Trend - กูเกิลเปิดตัว Demo Day Asia เป็นครั้งแรก - Short Clip
World Trend - 'อีลอน มัสก์' สละตำแหน่งประธานเทสลาพร้อมถูกปรับ 646 ลบ. - Short Clip
World Trend - พนง.กูเกิลทั่วโลกประท้วงกรณีล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน - Short Clip
World Trend - กูเกิล เตรียมไม่ต่อสัญญาพัฒนาเทคโนโลยีให้ 'เพนทากอน' - Short Clip
Jun 4, 2018 08:49

กูเกิลไม่ต่อสัญญาพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยให้ 'เพนทากอน' หลังพนักงานประท้วงแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการร่วมงานกับกองทัพ

สำนักข่าว CNN รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงใน ระบุว่า ไดแอน กรีน CEO ของ Google Cloud กล่าวกับพนักงานในบริษัทกูเกิลว่า ภารกิจการทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือ เพนทากอน ภายใต้โครงการรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘มาเวน’ จะยังคงดำเนินต่อไปตามแผนเดิมจนกระทั่งเดือนมีนาคม 2019 เท่านั้น 

โครงการมาเวนคือโครงการที่นำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เข้ามาใช้พัฒนาโดรนคุณภาพสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อจุดประสงค์หลักในการใช้ตรวจตรารักษาความปลอดภัยที่ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยมีหลักในการทำงานง่ายๆก็คือการที่กูเกิลจะช่วยพัฒนาโดรนของเพนทากอนด้วยเทคโนโลยี Image Classification หรือการแยกแยะสิ่งของต่างๆจากการถ่ายภาพด้วยโดรน เช่นการระบุว่าสิ่งนี้คืออาคาร สิ่งนี้คือรถเข็น และสิ่งนี้คือรถยนต์ เป็นต้น

ความคืบหน้าล่าสุดชี้ว่า ภายหลังจากการหมดสัญญาลงในช่วงเดือนมีนาคม 2019 บริษัทกูเกิลจะไม่ขอต่อสัญญาเพื่อทำงานให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯอีกต่อไปเนื่องจากต้องทนกับแรงกดดันจากสาธารณะและพนักงานของบริษัทอย่างรุนแรง ถึงขั้นที่มีพนักงานของกูเกิลหลายคนลาออกจากการเป็นส่วนหนังของการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับเพนทากอนไปเรียบร้อยแล้ว

โครงการดังกล่าวเรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักทั้งในด้านของการขัดต่อจริยธรรม และใช้สิทธิทางการทหารสอดส่องประชาชน ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างสงครามได้ในอนาคต เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากน้อยเพียงใดในวงการทหาร เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตการโจมตีด้วยโ���รนอาจถูกสั่งการโดยหุ่นยนต์เอไอก็เป็นได้ ซึ่งถือเป็นก้าวที่เสี่ยงอย่างมากของการร่วมมือกันระหว่างบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกกับกองทัพสหรัฐฯ

นอกจากนี้การที่กูเกิลร่วมมือกับเพนทากอนนั้น ได้ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกภายในองค์กรอย่างรุนแรง พร้อมยังทำให้พนักงานราว 4,000 คนลงนามยื่นหนังสือเรียกร้องผ่านจดหมายเปิดผนึกให้ทางบริษัทกูเกิลและเพนทากอนห้ามกระทำการใดๆร่วมกันที่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการทำลายล้างอันจะนำไปสู่การก่อให้เกิดสงครามเป็นอันขาด และขอให้กูเกิลยกเลิกสัญญาดังกล่าวโดยเร็ว โดยพนักงานจำนวนมากเล็งเห็นว่าการร่วมมือกับเพนทากอนนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะนำเทคโนโลยีที่พวกเขาผลิตขึ้นมาไปใช้ในทางที่ผิด

ในด้านของรายได้ ผู้สื่อข่าวของเว็บไซต์ Gizmodo สื่อแรกที่นำเสนอข่าวนี้ชี้ว่าสัญญาครั้งนี้มีมูลค่าน้อยนิดเมื่อเทียบกับรายได้หลักจากการให้บริการปกติของกูเกิล เพราะมีการคาดการณ์ว่ากูเกิลน่าจะได้รับค่าจ้างจากเพนทากอนเป็นเงินประมาณ 15 ล้านดอลลาร์ หรือราว 480 ล้านบาทเท่านั้น แต่แหล่งข่าวเชื่อว่าเม็ดเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กูเกิลตอบตกลงร่วมงานกับเพนทากอน แต่เป็นโอกาสที่จะได้ร่วมงานในโปรเจคที่ใหญ่กว่าในอนาคต 

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากูเกิลต้องการจะไม่ต่อสัญญากับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เมื่อสัญญาหมดลงตามกำหนดยังมีอีกหลายบริษัทเทคโนโลยีที่คอยจ้องที่จะเข้ามาแทนที่กูเกิลและร่วมพัฒนาเทคโนโลยีโดรนจับตาให้กับเพนทากอน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการควบคุมว่าเทคโดนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้อย่างไร และจะเป็นภัยต่อมนุษย์หรือไม่ต่างหาก

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog