รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2563
“อ.พิชญ์” รอหลังโควิด...อยากเห็นภาพคนรุ่นใหม่ ท้าชน ส.ว. หลังประธานและรองประธาน ส.ว. ยันไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ทั้งที่ความจริงยังมีภาพ ส.ว.ออกมาตอบโต้เด็ก หรือภาพไปหนุนหลังพรรคเมือง ที่เห็นชัด ๆ คือการ “โหวตประยุทธ์”
ชี้ภาพ ส.ว.เปลี่ยนไปหลังรัฐประหารปี 49 ยึดโยงกลุ่มคนมีอำนาจ
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกระแสข่าว “เสธ.อ.” ที่เป็นส.ว. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เพื่อเปลี่ยนตัวนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ได้ทราบจากการอ่านข่าวเท่านั้น ซึ่งมีการเอ่ยชื่อย่อ ไม่ได้เอ่ยชื่อจริง จึงไม่สามารถบอกได้ว่า ส.ว.ตามชื่อย่อนั้นเป็นใคร (ตามข่าว คือ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา) และส.ว.จะไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจริงหรือไม่ ซึ่งวันนี้ตนก็ได้มีการสอบถามไปบ้างในเบื้องต้น แต่ปรากฏว่าก็ยังไม่มีใครรับว่าไปพูดจาอะไรตามที่เป็นข่าว ตอนนี้ส.ว.อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม จึงไม่ค่อยได้พบปะบรรดาสมาชิก ต่างคนต่างแยกย้ายกันทำงานตามหน้าที่เท่าที่ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการตักเตือนหรือไม่ เพราะขณะนี้สังคมวิจารณ์ว่า ส.ว.เข้าไปล้ำเส้นพรรคการเมือง นายพรเพชรกล่าวว่า เรารู้หน้าที่ของเราอยู่แล้ว รวมถึงขอบเขตการทำหน้าที่ขึ้นอยู่กับสังคมจะวิพากษ์วิจารณ์ ขณะนี้แม้ปิดสมัยประชุม แต่ส.ว.ได้ทำโครงการ “วุฒิสภารวมใจสู้ภัยโควิด–19” โดยพยายามทำงานเพื่อสังคมเป็นหลัก และกำชับกันตลอดให้ระมัดระวังเรื่องจะไปบังคับ จูงใจคนในรัฐบาล หรือไปแทรกแซงสั่งการ อันนี้เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ ทั้งนี้ รอให้เปิดสมัยประชุมก่อนถึงจะได้พูดคุยกัน ดังนั้น ยังฟันธงไม่ได้ว่าเป็นส.ว.คนไหน และมีจริงตามข่าวหรือไม่ เพราะไม่ได้มีใครออกมายอมรับหรือปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉย กำลังดูอยู่ ถ้ามีตัวตนแน่นอนว่าเป็นใครก็คงจะต้องพูดคุยกัน
พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง กล่าวกระแสข่าวนี้ ว่า ทราบจากข่าว ซึ่งท่านก็ออกมาปฏิเสธแล้ว ส่วนจะทำให้ภาพพจน์ของส.ว.เสียหายหรือไม่นั้น พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การที่ส.ว.จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง คงเป็นเรื่องลำบาก เพราะตามรัฐธรรมนูญก็ห้ามอยู่แล้วว่าไม่ให้ส.ว.เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองใด ซึ่งทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วดังนั้น คงไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว
นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภากล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ส่วนตัวเชื่อว่า สมาชิกส.ว.ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และเรื่องนี้มองว่า อาจเป็นเรื่องรับผิดชอบเฉพาะตัวหรือไม่ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เข้มงวดให้ ส.ว.วางตัวเป็นกลางทางการเมือง แต่ตนไม่ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อน เชื่อว่า ส.ว.คงไม่มีการปกป้องกันเอง เนื่องจากกลไกการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญมีอยู่แล้ว ในส่วนของ ส.ว.ก็มีกลไกตรวจสอบของทางคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ที่ก็ดำเนินการได้ ทั้งนี้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาพลักษณ์ ของ ส.ว.จะถูกวิจารณ์ และตั้งคำถามหลายเรื่อง สำหรับตนไม่ได้อยากตอบโต้อะไร เพราะเห็นส.ว.หลายๆท่านก็พยายามลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านอยู่ตลอด ส่วนตนเองนั้น ก็วางโปรแกรมช่วยชาวบ้าน จ.อุตรดิตถ์ ตลอดช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ที่สำคัญตอนนี้บ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส.ว.จะต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำงานเพื่อบ้านเมืองในยามนี้ด้วย และต้องทำหน้าที่ให้สังคมยอมรับให้ได้จะดีกว่า