กูเกิลวางแผนแก้ปัญหาราคาที่พักอาศัยในซานฟรานซิสโกที่พุ่งสูง ด้วยการทุ่มงบสร้างที่พักราคาถูกเพื่อประชาชน
กูเกิลประกาศจะลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 31,000 ล้านบาท ในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยย่านเบย์แอเรีย ของนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีอย่างหนัก โดยเตรียมแบ่งงบประมาณเป็นสัดส่วน เพื่อสร้างที่พักขึ้นใหม่บนที่ดินของบริษัทและบริเวณอื่น ๆ รวม 20,000 ยูนิต ในช่วงเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า ให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้
ทั้งนี้ กูเกิลวางแผนจะแบ่งงบประมาณ 3 ใน 4 เพื่อสร้างที่พักทันที 15,000 ยูนิต ขณะที่ อีก 1 ใน 4 ส่วนที่เหลือจะใช้สนับสนุนให้บริษัทอื่นร่วมสร้างที่พักอีก 5,000 ยูนิต ซึ่งองค์กร 'ซิลิคอน แวลลีย์ ไรซิง' ได้ออกมาชื่นชมมาตรการดังกล่าวของกูเกิลอย่างเปิดเผย โดยระบุว่า บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ควรจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำกับคนท้องถิ่น เพราะแรงงานรายได้น้อยจำนวนมากประสบปัญหาไม่สามารถซื้อบ้านได้ก็เพราะการเติบโตของอุตสาหกรรมส่วนนี้
ทั้งนี้ กูเกิลเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 45,000 คน ในย่านเบย์แอเรีย ซึ่งการเติบโตของบริษัทส่งผลโดยตรงต่อค่าครองชีพในท้องถิ่น ตลอดจนทำให้ค่าเช่าบ้านและราคาอสังหาริมทรัพย์ในนครซานฟรานซิสโกพุ่งสูงจนติดอันดับต้น ๆ ของโลก นำไปสู่การประท้วงขัดขวางการทำงานของพนักงานกูเกิลหลายครั้งเมื่อไม่กี่ปีก่อน แม้ปัจจุบันจะไม่มีปัญหาเช่นนั้นแล้วก็ตาม แต่ประเด็นค่าครองชีพยังเป็นปัญหาอันดับแรก ๆ ที่รัฐบาลท้องถิ่นยังไม่สามารถคลี่คลายได้