ผลการเลือกตั้งดีอาร์คองโกที่พลิกล็อกทำให้มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสงสัยว่าการนับคะแนนอาจมีความไม่โปร่งใส
ผลการเลือกตั้งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือ ดีอาร์คองโก ถูกตั้งข้อสงสัยว่าไม่โปร่งใสและอาจมีการโกงการนับคะแนนอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ นายเฟลิกซ์ ทริซเซเคดี ตัวแทนจากพรรคยูดีพีเอส ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนกว่า 7 ล้านเสียงหรือคิดเป็น 38.5 % ตามด้วยนายมาร์ติน ฟายูลู นักธุรกิจที่เป็นผู้สมัครอิสระ แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากพรรคยูดีพีเอสด้วย ที่ได้อันดับ 2 ด้วยคะแนนเสียง 34.8% ส่วนนายเอมมานูเอล ชาดารี ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะเป็นทายาททางการเมืองของนายโจเซฟ คิบาลา ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ได้อันดับที่ 3 ด้วยคะแนนเสียง 23.8%
ผลการเลือกตั้งที่พลิกล็อกก็ทำให้คริสตจักรโรมันคาทอลิกที่มีอิธิพลอย่างมากในดีอาร์คองโกออกมาตั้งข้อสงสัยว่าการนับคะแนนอาจไม่โปร่งใส โดยทางโบสถ์ได้ส่งตัวแทนกว่า 40,000 คน สังเกตการเลือกตั้งครั้งนี้ทั่วประเทศและผลการนับคะแนนก็ขัดแย้งกับผลสำรวจคะแนนเสียงที่ชี้ว่านายมาร์ติน ฟายูลูที่ได้อันดับ 2 ควรจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ด้านรัฐบาลต่างประเทศอย่างเบลเยียมและฝรั่งเศสก็ตั้งข้อสงสัยผลการเลือกตั้งในดีอาร์คองโกด้วยเหมือนกัน
นายเอมมานูเอล ชาดารี ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่ได้อันดับ 3 ประกาศยอมรับผลการเลือกตั้งแล้ว แต่ว่านายมาร์ติน ฟายูลูที่ได้อันดับ 2 ยังไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และขอให้มีการตรวจสอบการนับคะแนน โดยนายฟายูลูกล่าวหานายเฟลิกซ์ ทริซเซเคดี ที่ชนะการเลือกตั้งว่าได้ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับทางรัฐบาลอย่างลับๆก่อนการเลือกตั้ง แต่เรื่องนี้ นายทริซเซเคดี ก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่เป็นความจริง