“คำผกา” สุดจะยั้ง สุดจะข่มใจ...หลังอ่านข่าว ทีดีอาร์ไอ กระมิดกระเมี้ยน ดึงผลสำรวจอ้อมแอ้มวิจารณ์รัฐบาล “ประยุทธ์” ทั้งที่ทำเศรษฐกิจดิ่งเหว แต่มองย้อนยุค “ยิ่งลักษณ์” วิจารณ์ทุกนโยบาย พูดรายวัน ต่างกับยุคนี้ เงียบ! ไม่ออกมาล้วงแคะ แกะเกา แฉเรื่องฉาว ....”อ.วิโรจน์” บอก ไม่มีทีดีอาร์ไอก็ได้ เพราะหลายสำนักวิจัยมีผลงานแซงไปแล้ว
ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน หรือ ขสช. จัดเวที ซีเอสโอ ทอล์ก “จากบทเรียนโควิด-19 สู่นโยบายฟื้นฟูฯ ที่โปร่งใสและเป็นธรรม” โดยนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวผ่านวิดีโอคอลล์ว่า การทำงานด้านการควบคุมการระบาดของโควิด 19 ของประเทศไทย นับว่าทำได้ดี แต่สถานการณ์ความยากลำบาก ไม่น่าจะจบใน 2-3 เดือนอย่างที่หลายคนคาดการณ์ น่าจะอีกราว 2 ปี ถึงจะคุมโรคได้ ด้านเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบมากที่สุดในรอบ 90 ปี นับจากการถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก ไม่เหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง และ น่าเป็นห่วงคือกลุ่มบัณฑิตที่หางานทำไม่ได้ จะว่างงานมากขึ้น
ส่วน“การเยียวยา ช่วยเหลือประชาชนจากนี้ นอกจากจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 จนต้องปิดเมืองอีก รัฐต้องเร่งช่วยเหลือจากฐานรากขึ้นมามากที่สุด ต้องใส่เงินให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านนี้ จะต้องช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน โดยที่ผ่านมาฐาน ข้อมูลของไทยยังไม่ดีพอ เกิดปัญหาว่า คนที่เดือดร้อนไม่ได้รับการช่วยเหลือ คนที่ได้รับไม่เดือดร้อนจริง เพราะฉะนั้นการช่วยเหลือต้องไปให้ตรงจุด ซึ่งอาจนำโมเดลของ กองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม ในปี 2540 มาปรับใช้ได้ ทั้งนี้เป็นห่วงว่าจะมีการนำโครงการเก่าๆมาเปลี่ยนชื่อใหม่ ซึ่งก็รู้ว่าไม่ได้ผล” นายสมเกียรติกล่าว
ขณะที่นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากข้อมูลวัยทำงานกว่า 7 ล้านคนถูกเลิกจ้างงานแล้วในขณะนี้ คนเหล่านี้ไม่มีรายได้ จะกระทบไปถึงเด็กที่จะต้องออกกลางคันจากโรงเรียนอีกไม่น้อย
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย กล่าวว่า การกู้เงินเพื่อเยียวยาประชาชนนี้ จะต้องทำให้ถูกจุด คิดว่าควรมุ่งไปที่ความมั่นคงทางอาหาร แต่เห็นด้วยกับฝ่ายค้านที่จะมีคณะกรรมาธิการฯติดตามการใช้เงินและมีคณะ กรรมการชุมชนคอยตรวจสอบ มองว่าควรกระจายอำนาจการช่วยเหลือประชาชน ให้เหมือนการดูแลสุขภาพผ่าน อสม. เพราะทุกชุมชนมีศักยภาพ เห็นได้ชัดว่า การเยียวยาแบบรวมศูนย์ผ่านกระทรวงการคลัง มีปัญหามาก