มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับ 'อาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์' กลับเข้ามาเป็นอาจารย์ประจําคณะสังคมสงเคราะห์ พร้อมไม่ดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

​ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต พร้อมด้วย ศ.ดร.ไพโรจน์ กัมพูสิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริหารศูนย์ลำปาง ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ และอาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์ ว่าที่อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ. ร่วมแถลงข่าว ผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (กบม.) กรณีเคท ครั้งพิบูลย์ ฟ้องร้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติ 'รับอาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์ เข้าเป็นอาจารย์ประจําคณะสังคมสงเคราะห์' และ 'ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ' พร้อมน้อมรับคําพิพากษาที่ตัดสินว่า ''การที่อาจารย์เคทเคยโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสมในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ไม่ถึงขนาดจะปฏิเสธไม่รับเข้าเป็นอาจารย์''

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า ธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่อนุญาตให้นักศึกษาข้ามเพศแต่งกายตามเพศที่ตนเองเลือกในการเข้าพิธีรับพระราชทานปริญญา ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว จึงขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่เนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองในการรับเป็นอาจารย์ขณะนั้น เห็นว่าการโพสต์ในโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องใหญ่จึงมีการถกเถียงกันมาก สุดท้ายเสียงข้างมากเห็นพ้องกับคณะกรรมการกลั่นกรอง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เห็นพ้องต้องกันไม่มีเสียงโต้แย้ง ในการรับอาจารย์เคท กลับมาเป็นอาจารย์ไม่ใช่เพียงเพราะคำพิพากษาศาลปกครองกลางเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีเหตุที่ศาลปกครองกลางมาเพิกถอนมติเดิมของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ไม่มีเหตุมาทบทวนมตินี้ได้ เมื่อศาลปกครองเพิกถอนมติเดิม จึงเป็นโอกาสที่มหาวิทยาลัยจะได้ทบทวนเรื่องที่เคยมีมติไปแล้ว

อาจารย์เคทกล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เพิกถอนมติเดิมและรับกลับเข้ามาเป็นอาจารย์ นอกจากนั้น ยืนยันเลือกเส้นทางสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ส่วนสถานะในพรรคอนาคตใหม่เป็นเพียงผู้ก่อตั้งไม่ลาออกจากความเป็นอาจารย์เพื่อไปทำงานในพรรคการเมือง ส่วนกรณีที่ขอให้ศาลสั่งให้มหาวิทยาลัยจ่ายค่าชดเชย ตามที่ได้ร้องขอไปในตอนแรกศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่าระหว่างฟ้องจนถึงปัจจุบันมีหน้าที่การงานมีรายได้ที่สมเหตุสมผล ศาลจึงไม่ได้พิจารณาให้ได้รับค่าเสียหาย