ประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ทำให้คนเสียชีวิตเท่านั้น แต่ว่าสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของไทยด้วย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่าเยียวยาเหยื่อ, ค่าซ่อมแซมรถ, ค่าดำเนินคดี และก็ยังเรื่องโอกาสการทำงานที่สูญเสียไปด้วย ทำให้เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านบาทต่อปี หรือเทียบเท่ากับจีดีพี 6%
คนไทยถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนค่อนข้างสูง โดยองค์การอนามัยโลก หรือWHO เคยรายงานว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีอัตราการตายเท่ากับ 36.2 คนต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก
ขณะที่ข้อมูลสถิติผู้เสียชีวิตที่ได้มาจากจาก 3 หน่วยงานราชการของไทย ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ แสดงให้เห็นว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในไทยประมาณ 22,000 คนต่อปี ส่วนผู้บาดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมีประมาณ 220,000 คนต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้บาดเจ็บสาหัส ประมาณ 110,000 คน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด
และไม่ว่าจะมีความพยายามรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนมากแค่ไหน แต่ยอดผู้เสียชีวิตในแต่ละปีก็ไม่เคยลดลง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหยุดยาวอย่างปีใหม่หรือสงกรานต์ที่คนเดินทางกันจำนวนมาก อย่างปีใหม่ที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิต 478 คน และในช่วงสงกรานต์เสียชีวิตอีก 390 คน จนถึงขณะนี้ มีคนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนในไทยในปีนี้ไปแล้ว 12,764 คน
อุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ประสบภัยเท่านั้น ไม่ใช่แค่บาดเจ็บและก็เสียชีวิตแล้วก็จบกันไป แต่ยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างมหาศาล เพราะการเสียชีวิตหรือมีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้ผู้ประสบภัยรวมถึงครอบครัวต้องสูญเสียโอกาสในการทำงานหรือประกอบวิชาชีพ ซึ่งก็ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต้องถดถอยลงไปด้วย
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร พบว่า การที่มีคนเสียชีวิตบนท้องถนน 1 คนจะก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จากการที่เขาควรจะมีชีวิตอยู่แล้วทำงานสร้างรายได้ไปอีกหลายสิบปี ในขณะที่คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน จะก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งหากนำตัวเลขนี้มารวมกับยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในแต่ละปีจะพบว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะคิดได้รวม 540,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทยเลยทีเดียว
สาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเมาแล้วขับ รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ผลการสำรวจของ TDRI ยังพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 27% ไม่ตระหนักว่าปัญหาความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่อีก 38% ให้ความสำคัญกับปัญหาความปลอดภัยทางถนนเพียงปานกลางเท่านั้น ซึ่งการที่ประชาชนยังขาดความตระหนักรู้ถึงปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนน ส่งผลให้คนจำนวนมากมีพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ไม่ปลอดภัย ดังนั้นแล้ว การรณรงค์ด้านปัญหาความปลอดภัยทางถนนจึงเป็นสิ่งที่ควรจะทำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ซึ่งจะช่วยปรับพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทยให้มีความระมัดระวังมากขึ้น
Biz Feed,อุบัติเหตุบนท้องถนน,ไทย,เสียชีวิต,อุบัติเหตุจราจร