ผลสำรวจสถานการณ์ด้านประชาธิปไตยใน 160 ประเทศ พบว่า 72 ประเทศอยู่ในภาวะประชาธิปไตยถดถอย และไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ปกครองโดย 'ระบอบลูกผสม' เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในแอฟริกา
ประเทศที่มีคะแนนความเป็นประชาธิปไตยสูงสุด 10 อันดับแรกของโลกจาการสำรวจดัชนีประชาธิปไตย ได้แก่ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวีเดน นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก แคนาดา ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และออสเตรเลีย โดยพิจารณาให้คะแนนจากกระบวนการจัดการเลือกตั้ง การสนับสนุนแนวคิดเรื่องพหุนิยมทางการเมือง
ส่วนไทยติดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการปกครองในระบอบลูกผสม (Hybrid Regime) ซึ่งรวมถึงประเทศที่อยู่ในภูมิภาคซับซาฮาราของแอฟริกาด้วย โดยลักษณะที่ประเทศเหล่านี้มีร่วมกัน คือ การขาดแคลนพัฒนาการด้านพหุนิยมทางการเมือง และอาจมีปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพของพลเรือนหรือภาคประชาสังคม หรือการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลอาจขัดแย้งกับหลักการด้านประชาธิปไตย ขณะที่ประเทศซึ่งติดกลุ่มเผด็จการส่วนใหญ่จะอยู่ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ทั้งนี้ อีไอยูจัดทำดัชนีประชาธิปไตยครั้งแรกเมื่อปี 2006 และมีการเผยผลสำรวจประจำปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม คู่มือปฏิบัติด้านการประเมินคุณภาพประชาธิปไตย ที่จัดทำโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (IDEA) และได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นภาษาไทยโดยสถาบันพระปกเกล้า ระบุว่า ผู้ประเมินประชาธิปไตยควรเป็นพลเมืองและบุคคลอื่นๆ ที่อาศัยในประเทศที่ถูกประเมินเท่านั้น เพราะคนกลุ่มนี้จะรู้ได้จากประสบการณ์ว่าประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศของพวกเขาเป็นอย่างไร และจะสามารถกำหนดแนวทางที่จะเป็นหลักของประชาธิปไตยได้ แต่เกณฑ์การประเมินควรมาจากหลักประชาธิปไตยที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยจะต้องยึดตามขอบเขตที่กว้างที่สุดของประเด็นประชาธิปไตยด้วย ทั้งยังต้องคำนึงถึงอิสรภาพหรือเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจะต้องไม่มีการควบคุมหรือใช้อิทธิพลเหนือการตัดสินใจสาธารณะ
Source:
http://news.voicetv.co.th/world/510409.html