ไม่พบผลการค้นหา
โคทม อารียา... “วิพากษ์นิติราษฎร์ – วิจารณ์ทักษิณ”
นักวิทยาศาสตร์ 'ฟันธง' เลิกใช้ GT200 และยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิต
อนาคตอาหารแช่เยือกแข็งไทย
บริหารเงินครึ่งปีหลัง
80 ปี ปฏิวัติประชาธิปไตย "เสรีภาพสื่อ"
วิพากษ์ข้อเสนอนิติราษฎร์ ท้าทายกระบวนยุติธรรมกระแสหลัก
100 ขั้นตอนสู่ความล้มเหลว
วิกฤติเศรษฐกิจโลก บทเรียนประเทศไทย
“หุ้นไทยครึ่งปีหลัง”
รับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2558
นักธรณีวิทยาเตือนอีก 2 เดือนภาคใต้เกิดมหันตภัยครั้งใหญ่
“ถอนทหาร” คำสั่งศาลโลก...ยุติความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา ?
ยุคประชาธิปัตย์ผลัดใบ...ชูคนรุ่นใหม่ เจาะใจคนรากหญ้า
'ระบบโลจิสติกส์ไทย'...ก้าวหน้าหรือย่ำกับที่ ?
อุตสาหกรรมอาหารรับมือวิกฤติน้ำท่วม
“ด้วยสองมือพ่อ”
การเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน ในสายตาเชฟระดับโลก “ทอมมี่ แทง”
“สงครามน้ำ !” บทเรียนบริหารภัยพิบัติ
วิจัยชนบทกับ "ครก. 112"
พรรคการเมือง ร่วมประชันวิสัยทัศน์
ถอดบทเรียน ''นาซ่า'' ถอนโครงการสำรวจสภาพอากาศ
Jul 14, 2012 10:22

รายการ Intelligence ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2555

 

หลังจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซ่า ตัดสินใจถอนโครงการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐาน  เพื่อศึกษาการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  เพราะปัญหาการเมืองภายในประเทศของไทย ที่มีการหยิบยกปัญหาเรื่องความมั่นคง และผลประโยชน์ทับซ้อนมาโจมตีกัน  ขณะที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโดยหลักการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ จัดทำโครงการเพื่อศึกษาสภาพภูมิอากาศของไทยโดยใช้ทรัพยากร  ที่มีอยู่ในการพยากรณ์ให้เกิดความแม่นยำ โดยมอบหมายให้ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ.อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เป็นผู้ประสานกับนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ

 
ดร.อานนท์ ระบุว่า การศึกษาการก่อตัวของเมฆ และผลกระทบจากอนุภาคแขวนลอยในอากาศ เป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องมานานแล้ว  โดยนาซ่า ประสานผ่านมายังกระทรวงการต่างประเทศเมื่อต้นปี 2553  สาเหตุที่เลือกประเทศไทยเพราะสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ จะศึกษาได้ทั้งช่วงมรสุม และช่วงฤดูแล้ง   เมื่อนาซ่าถอนตัวออกไป  ไทยเตรียมสำรวจการก่อตัวของเมฆ และอนุภาคแขวนลอยในอากาศ ช่วงแรกเดือนกันยายน ถึงตุลาคม เป็นช่วงมรสุมในพื้นที่ภาคใต้  และช่วงที่สองเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือนมีนาคม พื้นที่ภาคเหนือมีหมอกลงจัด การสำรวจใช้อุปกรณ์บอลลูนดาวเทียม และเครื่องบินของสำนักทำฝนหลวง ที่มีศักยภาพมากที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ คือ Super King Air
 
 ผศ.ดร.เจษฎา  เด่นดวงบริพันธ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่า กรณีของนาซ่า จำเป็นต้องถอดบทเรียน และถือเป็นบทเรียนราคาแพงของสังคมไทย สังคมที่วิทยาศาสตร์อ่อนแออย่างมาก จนทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ล้วนๆ  ในมุมมองของ ดร.เจษฎา วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานก็สามารถอธิบายทั้งกรณี จีที 200 และ กรณีนาซ่าได้แล้ว หากมีการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นและให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ ตรงไปตรงมา  แม้จุฬาฯ จะเปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ "นาซามาทำอะไรที่อู่ตะเภา" แต่ก็สายเกินไป
 
ดร.เจษฎามองว่า  การตัดสินใจของประเทศไทยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความรู้ แต่ใช้ความเชื่อ ความศรัทธา หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่กระบวนการวิทยาศาสตร์  วงการวิทยาศาสตร์ไทยจึงอ่อนแอ และไม่มีองค์กรใดมารองรับเมื่อเกิดกรณีปัญหาขึ้น
 
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog