ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม บังคับใช้มาตรการให้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศและนำเข้าทุกคัน ต้องติดป้าย Eco Sticker ตามมาตรฐานสากล ขณะนี้มีผู้ผลิตและค่ายรถยนต์ติด Eco Sticker แล้วกว่า 400 คัน และตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ จะมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
มาตรการที่ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้ารถยนต์ ติดป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ Eco Sticker ในรถใหม่ที่ผลิตในประเทศและนำเข้าทุกคัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรูปแบบใหม่ตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในวันที่ 1 มกราคม 2559 ขณะนี้ มีผู้ประกอบการติดป้ายนี้แล้ว 440 รุ่น คิดเป็น 90% ของรถยนต์ใหม่ทั้งหมด และคาดว่าตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ จะมีการติดป้าย Eco Sticker มากขึ้น
Eco Sticker จะเป็นแผ่นป้ายขนาดเท่ากระดาษ A4 แบบสีหรือขาวดำ ระบุข้อมูลผู้ผลิตหรือนำเข้า , ข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ , ข้อมูลอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน และข้อมูลแสดงสมรรถนะตามมาตรฐาน UN ได้แก่ อัตราการประหยัดน้ำมัน , ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมาตรฐานความปลอดภัย ช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ โดยปัจจุบัน ประเทศไทยผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศเฉลี่ย 1 ล้านคันต่อปี
ขณะที่ ค่ายรถยนต์ต่างๆ อาทิ ฮอนด้า , MG , โตโยต้า , อีซูซุ , นิสสัน , มาสด้า เป็นต้น ก็ได้ทยอยติดป้าย ECO Sticker ในรถยนต์ใหม่ทุกรุ่น ทุกคัน ที่จัดส่งให้ผู้จำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งนอกจากสร้างมาตรฐานใหม่และกระตุ้นให้เกิดพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นการยืนยันว่า รถยนต์ใหม่เป็นรถยนต์ที่สะอาด มีมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล
ปัจจุบัน Eco Sticker ใช้กันแพร่หลายในประเทศอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ส่วนในภูมิภาคอาเซียน มีเพียงสิงคโปร์และไทย เท่านั้น