นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยก่อนเข้าประชุมบอร์ดว่า เป็นครั้งแรกที่บอร์ดจะรับทราบคดีที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท โฮปเวลล์ เพราะไม่เคยมีการรายงานจากฝ่ายบริหารมาก่อน คิดว่าคดีจบไปแล้ว จึงไม่ได้ทำอะไรในเรื่องนี้ต่อ แต่ปรากฎว่าตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 การรถไฟฯ ไม่เคยรายงานกระบวนการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาลเลย ดังนั้นคงต้องมานั่งไล่บี้ในเรื่องที่เกิดขึ้น อาจจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หรือสอบสวนการดำเนินการว่าเคยทำอะไรบ้าง ทำไมบอร์ดจึงไม่ได้รับทราบเรื่องนี้จากฝากบริหารจนกระทั่งมีคำตัดสินจากศาล ส่วนจะสรุปแนวทางอย่างไรขอรอฟังแนวทางจากที่ประชุมก่อน
ด้านนายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การชดใช้ค่าเสียหายในคดีโฮปเวลล์ ประมาณการยอดเงินต้นรวมดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท หรือคิดเฉพาะในส่วนดอกเบี้ยเท่ากับ 13,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นเป็นการคำนวนอัตราดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายก่อนวันที่ 30 เมษายนนี้เท่านั้น ซึ่งหากคิดคำนวนดอกเบี้ยต่อไปอีก 6 เดือน หรือ 180 วัน ตามสิ้นสุดการจ่าย คาดว่าส่วนต่างดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 3-4
ขณะที่การประชุมบอร์ดวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขข้างต้น ก่อนพิจารณาเพื่อสรุปแนวทางการจ่ายเงินให้กับ บริษัท โฮปเวลล์ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร โดยในส่วนของการรถไฟฯ ต้องการให้กระทรวงคมนาคมมาร่วมรับผิดชอบจ่ายเงินที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วย ซึ่งในวันที่ 29 เมษายนนี้ การรถไฟฯ จะสรุปแนวทางทั้งหมดเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 เมษายนนี้ หลังจากนั้นจึงจะมีการเจรจาร่วมกับบริษัท โฮปเวลล์
รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ยังระบุว่า แม้ว่าคณะกรรมการรถไฟฯ จะสรุปแนวทางการจ่ายเงินแก่โฮปเวลล์อย่างไร การรถไฟฯมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินมาจ่าย ซึ่งจะขอให้กระทรวงการคลังช่วยจัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
